#ฮาวายวิกฤติ!ภูเขาไฟคิลาเวปะทุรุนแรง จนลาวาไหลเข้าสู่ทางหลวงหลวงสายหลัก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโฮโนลูลู ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ว่าสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาวสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ ว่านับตั้งแต่ภูเขาไฟคิลาเวเกิดการปะทุเมื่อต้นเดือนนี้ เกิดรอยแยกแล้วอย่างน้อย 22 แห่ง โดยลาวาซึ่งไหลทะลักออกมาจากรอยแยกล่าสุดเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 274 เมตรต่อชั่วโมง มุ่งหน้าทิศตะวันออกเฉียงใต้ และพืชพรรณซึ่งล้มตาย รวมถึงสิ่งปลูกสร้างซึ่งเกิดการเผาไหม้จากผลของลาวา จะก่อให้เกิดแก๊สพิษส่งผลกระทบต่อคุณภาพของอากาศในบริเวณนั้น ยูเอสจีเอสจึงย้ำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสวมหน้ากากป้องกัน

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของยูเอสจีเอสยังระบุถึงการที่ลาวากำลังเดินทางเข้าใกล้ทางหลวงหมายเลข 137 ซึ่งเป็นทางหลวงสายหลักทอดยาวริมชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะใหญ่ฮาวาย สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนเขตฮาวายจึงเตือนประชาชนซึ่งยังคงอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว “หลบอยู่ในที่ปลอดภัย” เพื่อรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ด้านนายแฮร์รี คิม นายกเทศมนตรีเขตฮาวาย กล่าวว่าลาวาจากรอยแยกที่ 20 มีแนวโน้มเป็นอันตรายต่อบ้านเรือนประมาณ 40 หลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิให้ความช่วยเหลือประชาชนออกมาได้แล้ว 4 คน

ทั้งนี้ ภูเขาไฟคิลาเวเกิดการระเบิดบริเวณยอด “ฮาเลเมาเมา” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่มีการระเบิดบนส่วนยอดของภูเขาไฟซึ่งมีความสูง 1,247 เมตร และปะทุอย่างรุนแรงและต่อเนื่องอันเป็นผลจากแผ่นดินไหวเบาบางและปานกลางสลับกันไปหลายร้อยครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยระดับการเตือนภัยอยู่ที่สีแดงซึ่งเป็นขั้นสูงสุด และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศให้รัฐฮาวายเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เมื่อช่วงกลางเดือนนี้ด้วย เพื่อการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง.

ภาพประกอบ Fb : USGS Vocalnoes

สำนักข่าววิหคนิวส์