สื่อต่างประเทศรายงานว่า โรเบิร์ต ฮาเบค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี ออกมาแนะนำให้ประชาชนลดเวลาในการอาบน้ำ เพื่อรับมือกับสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นวิกฤตฉับพลันทางพลังงาน หลังรัสเซียลดป้อนอุปทานก๊าซธรรมชาติแก่ประเทศแห่งนี้ พร้อมส่งเสียงเตือนในกรณีเลวร้ายที่สุด บริษัทต่างๆ อาจต้องหยุดการผลิต พนักงานโดนเลิกจ้าง ประชาชนจะเป็นหนี้และยากจนลง
.
รัฐมนตรีรายนี้ยังให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Der Spiegel ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (24 มิ.ย.) แนะนำด้วยว่าการไม่ใช้เครื่องทำความร้อนตามอพาร์ตเมนต์ต่างๆ จะช่วยเยอรมนีได้มาก สำหรับผ่านพ้นความยากลำบากต่างๆ ที่มีรัสเซียเป็นต้นเหตุ
.
เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวแล้ว เขาจะสนับสนุนอย่างไรต่อความพยายามประหยัดก๊าซทั่วประเทศให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนถึงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลายากลำบากของเยอรมนี ฮาเบคตอบว่าเขาจะปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงของเขาอย่างเคร่งครัด “ผมขอพูดอีกครั้ง ผมจะลดเวลาในการอาบน้ำลงให้เหลือสั้นที่สุด”
.
รัฐมนตรีรายนี้ดูเหมือนจะมีความภาคภูมิใจในความสามารถ “อาบน้ำเสร็จอย่างรวดเร็ว” ของตนเอง โดยเขาให้สัมภาษณ์กับ Der Spiegel เผยว่าเขาถึงกับหัวเราะขบขัน ตอนที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ พูดถึงแผนรณรงค์สนับสนุนประชาชนลดเวลาในการอาบน้ำลงจากค่าเฉลี่ยราวๆ 10 นาที เหลือ 5 นาที “ตลอดชีวิตของผม ผมไม่เคยอาบน้ำถึง 5 นาทีเลย” ฮาเบคกล่าว
.
นอกจากนี้ ฮาเบค ยังบอกด้วยว่าเขาไม่ค่อยได้ใช้เครื่องทำความร้อนในห้องพักของตนเองในช่วงฤดูหนาว เนื่องจาก “เขาตื่นตอน 6 โมงเช้าและออกจากที่พักตอน 7 โมง” และกลับเข้าห้องพักก็ค่ำมืดแล้ว อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า ในกรณีของตนเอง “ไม่สามารถหยิบยกเป็นตัวอย่างได้ดีนัก” เนื่องจากเขากินเงินเดือนในระดับรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเพียงความเพ้อฝันสำหรับคนอื่นๆ
.
ฮาเบคเตือนว่าสถานการณ์เลวร้ายสุดยังมาไม่ถึง เนื่องจากบรรดาบริษัทพลังงานทั้งหลายกำลังปรับขึ้นราคาอย่างค่อยเป็นค่อยไป “จะมีคนได้รับผลกระทบมากขึ้น” เขากล่าว พร้อมระบุว่า “เราอยู่ในสถานการณ์ที่เยอรมนีไม่เคยเจอมาก่อน” ในสิ่งที่เขาให้คำจำกัดความว่าเป็น “วิกฤตก๊าซธรรมชาติ”
.
ในกรณีเลวร้ายที่สุด ฮาเบคระบุว่า “บริษัทต่างๆ อาจจำเป็นต้องหยุดการผลิต พนักงานของพวกเขาจะถูกเลิกจ้าง ห่วงโซ่อุปทานจะล่มสลาย ประชาชนจะเป็นหนี้ค่าทำความร้อน ประชาชนจะยากจนลงและความผิดหวังจะปกคลุมทั่วประเทศ”
.
ที่ผ่านมา ฮาเบคเคยแนะนำแนวทางแปลกต่างๆ ในการรับมือกับวิกฤตขาดแคลนพลังงาน โดยเมื่อเดือนเมษายน เขาแนะนำให้ทำงานจากที่บ้าน หลีกเลี่ยงการขับขี่รถยนต์และหันมาปั่นจักรยาน เพื่อยั่วโมโหประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บุคคลที่เขากล่าวโทษว่าเป็นต้นตอของวิกฤต
.
ฮาเบคกล่าวเมื่อวันศุกร์ (24 มิ.ย.) เชื่อว่าการที่รัสเซียปรับลดปริมาณอุปทานก๊าซที่ป้อนแก่เยอรมนี ก็เพื่อปั่นราคาให้สูงขึ้นและเพิ่มแรงกดดัน “โหมกระพือความรู้สึกไม่มั่นคงและหวาดกลัว” ใส่ประชาชนชาวเยอรมนี
.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย อ้างว่า ซีเมนส์ เอนเนอร์จี ซัปพลายเออร์สัญชาติเยอรมนี ส่งชุดปั๊มก๊าซที่ส่งไปซ่อมกลับมายังสถานีอัดก๊าซแห่งหนึ่งไม่ทันเวลา โดยเวลานี้ปั๊มเทอร์ไบน์ของท่อลำเลียงนอร์ดสตรีมที่ผ่านการซ่อมแซมแล้วนั้น ยังติดค้างอยู่ที่โรงซ่อมแห่งหนึ่งในแคนาดา สืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของออตตาวาที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย
.
เยอรมนีและอิตาลี กล่าวหาบริษัทก๊าซพรอม พยายามผลักราคาพลังงานให้สูงขึ้น ด้วยการปรับลดอุปทานที่ป้อนแก่พวกเขา โดยอ้างปัญหาทางเทคนิค “มันเป็นการตัดสินใจทางการเมืองและไม่ใช่ประเด็นด้านเทคนิคตามคำกล่าวอ้าง แน่นอนว่ามันเป็นยุทธศาสตร์ปั่นป่วนและผลักดันราคาให้พุ่งสูง”
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) เครมลินออกมาตอบโต้คำกล่าวหาดังกล่าว พร้อมระบุว่ารัสเซียมีชื่อเสียงในฐานะผู้จัดหาอุปทานพลังงานที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่ง “ยึดมั่นอย่างหนักแน่น ปฏิบัติตามทุกพันธสัญญาที่มี” ดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกระบุ
——————————-