ข่าวประจำวัน » #รองหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านหญิงกัมพูชาหนี !! ลี้ภัยในต่างแดน หลังหัวหน้าพรรคถูกจับคาบ้านข้อหากบฎ

#รองหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านหญิงกัมพูชาหนี !! ลี้ภัยในต่างแดน หลังหัวหน้าพรรคถูกจับคาบ้านข้อหากบฎ

7 October 2017
594   0

นางมู ซกฮัว หนึ่งในนักการเมืองฝ่ายค้านชื่อดังของกัมพูชาและเป็นรองหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ CNRP ได้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อขอลี้ภัยในต่างแดน ภายหลังหัวหน้าพรรคของเธอถูกจับตัวที่บ้านพักและเผชิญข้อหากบฏเมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางการกวาดล้างศัตรูทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน

นางมู ซกฮัว ให้สัมภาษณ์กับโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บีบีซี ในกรุงเทพ ก่อนเดินทางไปประเทศที่สาม ว่า เธอต้องหนีหลังจากได้รับคำเตือนว่าจะถูกจับตัวจากข้อหากบฏ ทั้งที่ไม่เคยมีแผนคิดหนีออกนอกประเทศมาก่อน
“มันเป็นทางเลือกที่ฉันคิดว่าคงจะไม่มีวันเลือก มันเป็นทางเลือกที่เจ็บปวด” นางมู ซกฮัว กล่าวขณะนั่งอยู่ในห้องโล่ง ๆ แห่งหนึ่งในกรุงเทพ ระหว่างรอการเดินทางไปยังอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งยังไม่เปิดเผยว่าจุดหมายปลายทางเป็นที่ไหน

เธอเล่าว่า เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เธอได้รับคำเตือนจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลว่า เธอจะถูกจับในช่วงสุดสัปดาห์นี้
เดือนที่แล้ว นายเกิม โซะคา หัวหน้าพรรคของเธอ ซึ่งเป็นนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน ถูกตำรวจ 200 นายบุกจับตัวที่บ้านพัก และตั้งข้อหากบฏ ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวว่าจะมีผู้ถูกจับกุมตัวเพิ่มเติมในข้อหาเดียวกันอีกหลายคน

“ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ฉันกลัวว่าจะถูกจับ ถูกปิดปาก และคุมขัง ต้องสู้คดีในศาลเตี้ยในประเทศเรา เป็นเวลาหลายเดือน” นางมู ซกฮัว กล่าว

“เราไม่มีเวลาให้เสีย การเลือกตั้งของกัมพูชามีกำหนดจัดขึ้น 29 กรกฎาคม 2018 ฉันต้องการให้คนได้ยินเสียงของฉัน”
การกลั่นแกล้งบุคคลสำคัญในฝ่ายค้านของกัมพูชาไม่ใช่เรื่องใหม่ นับตั้งแต่ที่ประชาคมโลกช่วยให้กัมพูชาก้าวออกจากสงครามและการปฏิวัติในช่วงต้นทศวรรษ 1990 และทำให้เกิดประชาธิปไตยในประเทศขึ้น เกิดการคุกคามนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและนักการเมืองซ้ำแล้วซ้ำอีก บางคนถูกไต่สวนในศาลทุจริตของกัมพูชา บางคนถูกทำร้ายร่างกาย

ทุกคนต่างชี้ไปที่ ฮุน เซน ผู้ปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 1985 และพวกพ้อง ไม่เคยมีใครถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมทางการเมือง เหยื่อรายล่าสุดคือนายแกม เล็ย นักวิจารณ์นายกรัฐมนตรีฝีปากกล้า ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว

ถึงกระนั้น ระบอบประชาธิปไตยในกัมพูชาก็ทำงานได้ โดยยังพอมีสื่อเสรีอยู่รอดในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา และยังมีการจัดเลือกตั้งระดับประเทศและท้องถิ่นทุก 5 ปีด้วย

รัฐบาลให้พื้นที่สำหรับการแสดงวิพากษ์วิจารณ์และประท้วง เพื่อรองรับความไม่พอใจของประชาชนเกี่ยวกับการทุจริต การทำลายสิ่งแวดล้อม และช่องว่างทางรายได้ที่กว้างขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้อาจจะกำลังเปลี่ยนแปลงไป

การเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2013 พรรค CNRP ซึ่งมาจากการรวมตัวกันของสองพรรคฝ่ายค้านที่เก่าแก่ เกือบเอาชนะพรรคประชาชนกัมพูชา หรือ CPP ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้สำเร็จ ท่ามกลางข้อกล่าวหาจากพรรคฝ่ายค้านว่ารัฐบาลว่าโกงการเลือกตั้ง และออกมาประท้วงบนท้องถนนในกรุงพนมเปญ ซึ่งหลังจากนั้น 4 เดือน พวกเขาก็ถูกปราบปรามอย่างหนักจากทหารและตำรวจ
การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากร ทำให้มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งจำนวนมากขึ้นที่มีการศึกษาดีขึ้นและเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เปิดรับข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ และไม่สนใจกับคำเตือนของฮุน เซน ที่ว่ากัมพูชาจะกลับไปสู่ความรุนแรงเมื่อเช่นในอดีต ถ้าพรรคของเขาถูกขับออก
การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้กรุงพนมเปญเปลี่ยนแปลงไป แต่ส่วนอื่น ๆ ของประเทศ ไม่ได้รับการเหลียวแล นอกจากนี้ยังทำให้ฮุน เซน และคนใกล้ชิดร่ำรวยขึ้น ผลการสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยพรรค CPP เมื่อไม่นานมานี้ และรั่วไหลมาถึงพรรคฝ่ายค้าน คาดการณ์ว่า พรรค CPP จะแพ้การเลือกตั้งครั้งหน้าให้แก่พรรค CNRP
ในเดือนสิงหาคม รัฐบาลได้ปิดสถานีวิทยุหลายแห่งที่กระจายเสียงรายการที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ อย่างเช่น เรดิโอ ฟรี เอเชีย (Radio Free Asia) และวอยซ์ ออฟ อเมริกา (Voice of America) นอกจากนี้ยังเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 220 ล้านบาทจากหนังสือพิมพ์เดอะ แคมโบเดีย เดลี (The Cambodia Daily) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้หนังสือพิมพ์ต้องยุติการตีพิมพ์

เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาว่าทำลายประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ก็โต้กลับด้วยการอ้างว่ามีการสมรู้ร่วมคิดที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ โดยเดือนที่แล้ว รัฐบาลกล่าวหาว่าสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา หลังจากแสดงความกังวลเกี่ยวกับการจับตัวนายเกิม โซะคา ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่สหรัฐฯ เห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ด้านรัฐบาลจีน แสดงการสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาในความพยายาม “ปกป้องเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศ”

สำนักข่าววิหคนิวส์