ข่าวประจำวัน » #มาร์คฟันธง.!! ยังไม่สิ้นตระกูลชิน

#มาร์คฟันธง.!! ยังไม่สิ้นตระกูลชิน

28 August 2017
405   0

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าวว่า สื่ออาจจะวิเคราะห์ไกลเกินไปว่า เป็นการสิ้นยุคตระกูลชินวัตรต่อการเมืองไทย ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าตระกูลนี้ยังคงมีอิทธิพลอยู่ และมีกลุ่มมวลชนที่ยังสนับสนุนอยู่ ซึ่งขณะนี้กระบวนการทางกฎหมายยังไม่จบ คดีของคุณยิ่งลักษณ์ก็ยังไม่มีการอ่านคำพิพากษา และแม้อ่านแล้วก็ยังอุทธรณ์ได้ตามรัฐธรรมนูญใหม่ยังไม่ถึงที่สุด  และการพูดถึงอิทธิพลของครอบครัวชินวัตรมันเป็นเรื่องการเมือง และปฏิเสธไม่ได้ถึงอิทธิพลของตระกูลชินวัตรที่มีต่อนักการเมืองในพรรคเพื่อไทย รวมถึงประชาชนจำนวนมากยังสนับสนุน ซึ่งเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ จึงไม่ควรเอาเรื่องการเมืองกับกฎหมายมาปะปนกัน เพราะจะกลายเป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง จะกลายเป็นว่ามีการกลั่นแกล้งกันเพื่อเป้าหมายทางการเมืองหรือไม่

แนวหน้า – เมื่อถามว่า ผลทางการเมืองจากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาฟังคำพิพากษามีผลอย่างไรหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังมองไม่เห็นว่ามีผลกระทบทางการเมืองอย่างไรชัดเจน เพราะคนที่ไม่สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็จะมองว่ามีความผิดอยู่แล้วเป็นการหนีจากคดีนี้ ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนก็มีการปลุกระดมกันมาตลอดว่าเรื่องนี้เป็นกระบวนการเกี่ยวกับการเมืองอาจเป็นการไม่ยอมรับหรือแสดงความไม่มั่นใจ


“ผมถึงบอกว่าถ้าไม่แยกเรื่องกฎหมายกับเรื่องการเมืองออกจากกัน เราก็จะอยู่ในวังวนของความขัดแย้งต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

เมื่อถามว่า การเมืองที่ผ่านมาถือว่าเรื่องคำพูด เมื่อพูดว่าจะสู้คดีแต่กลับหนีไปจะส่งผลอะไรหรือไม่นั้น  นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนตอบแทนไม่ได้  ต้องไปถามผู้ที่เคยสนับสนุนว่าคิดอย่างไร สิ่งที่ได้รับความชัดเจนมาระดับหนึ่งแล้ว คือคำพิพากษาในคดีของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์กับคณะ คำพิพากษาอธิบายที่มาที่ไปของการคออร์รัปชั่นและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโครงการจำนำข้าว ตั้งแต่ขั้นนโยบายไล่ลงมาถึงขั้นตอนการปฏิบัติ  ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้สังคมมาทำความเข้าใจ  ซึ่งพูดได้เลยว่าไม่ได้เกิดจากว่าไม่อยากให้ช่วยชาวนา  ไม่ได้เกิดเพราะโครงการไหนขาดทุนก็แปลว่ามีความผิด


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาศาลครั้งนี้มีผลดีหรือผลเสียกับสังคมหรือไม่นั้นตนอยากเห็นบ้านเมืองเดินตามกติกา แต่มันมีความขัดแย้งกันในความรู้สึกกันเอง ด้านหนึ่งก็มีคนอยากให้ระบบมันเดินตามปกติ อีกด้านหนึ่งก็กลัวความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น มันสะท้อนปัญหาของความปรองดองและการแก้ปัญหาการทุจริต หรือกระบวนการยุติธรรมยังเป็นเรื่องใหญ่มากที่สังคมจะต้องแก้ ถึงจะพูดได้ว่ามีการปฏิรูปแล้ว มีการปรองดองแล้วตนเคยตั้งข้อสังเกตว่าในคดีที่เขาชนะเขาก็ยอมรับกระบวนการยุติธรรมอย่างคดีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เห็นบอกว่ายอมรับคำตัดสินของศาลยุติธรรม นี่ก็บ่งบอกว่าการจะพูดว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมนั้นเลือกหรือเปล่า ว่าทำไมบางกรณีรับบางกรณีไม่รับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาศาล แต่ปล่อยให้อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลของตัวเองเข้าคุกจะส่งผลอะไรบ้างนั้น  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ที่ย้ำมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หรือรัฐมนตรีก็ตาม ถ้าบอกว่าที่ต้องทำเพราะมีคำสั่งทั้งที่รู้ว่าไม่ถูกต้อง ในที่สุดมันไม่มีภูมิคุ้มกันหรอก ถ้าไปกลัวไปเกรงใจไปจำนนแล้วไปทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถึงเวลาจริง ๆ ตัวเราเองต้องเป็นผู้รับผิดชอบ อันนี้หวังว่าทำให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าตนเองต้องรับผิดชอบในส่วนที่ตนเองทำอย่างเต็มที่ส่วนความรับผิดชอบทางฝ่ายบริหารนั้น เรายังต้องรอฟังคำพิพากษาในคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อน

       
สำนักข่าววิหคนิวส์