ข่าวประจำวัน » อาชญากรรม » #ผลสอบยัน’ตท.’ซ้อมโหด ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’นั่งไม่ติด ยอมเปิดปากขอโทษ

#ผลสอบยัน’ตท.’ซ้อมโหด ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’นั่งไม่ติด ยอมเปิดปากขอโทษ

24 November 2017
1517   0

ทหารอ่วม! สังคมถล่มหนักปม “น้องเมย” เสียชีวิตปริศนา “บิ๊กต๊อก” สั่งเด้งด่วน “ผู้บังคับการ-ผู้พัน” โรงเรียนเตรียมทหาร เผยผลสอบก่อนหน้านี้ชี้ชัดรุ่นพี่ “ซ้อมโหด” จนหยุดหายใจ เดือดร้อนหมดต้องปั้มช่วยชีวิตจนฟื้น แต่อ้างครอบครัวไม่เอาความ ด้าน “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” นั่งไม่ติด ดาหน้าออกมาเปิดปากขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย หลังทหารโดนสังคมรุมถล่ม ช่วยกันป้อง “ประเพณีเถื่อน” ซ้อมรุ่นน้องความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยจากครอบครัวและหลายฝ่ายว่าอาจมีสาเหตุจากการถูก “ธำรงวินัย” หรือลงโทษจากกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่ที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ จนทำให้เสียชีวิต แม้ว่าบรรดาผู้เกี่ยวข้องและผู้ใหญ่ในกองทัพจะพากันออกมาชี้ว่าเป็นการเสียชีวิตเพราะหัวใจหยุดเต้นอย่างเฉียบพลันด้วยโรคประจำตัว แต่สังคมก็ยังไม่สิ้นข้อกังขา เนื่องจากแพทย์ที่ชันสูตรมีการเก็บอวัยวะภายในไว้ โดยไม่แจ้งให้ญาติทราบ จนความมาแตกเอาหลังจากมีการนำศพของน้องเมยไปส่งพิสูจน์เป็นครั้งที่สอง

สังคมถล่มหนัก”บิ๊กป้อม”วิจารณ์น้องเมย

โดยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์โจมตีการวางตัวของผู้ใหญ่ในกองทัพอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการแสดงความไม่พอใจกรณีการแสดงความเห็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ระบุว่า เรื่องการธำรงวินัยหรือการซ่อมของนักเรียนเตรียมทหาร เป็นเรื่องปกติที่จะต้องโดนกันทุกคน แม้กระทั่งตนเองก็ยังเคยโดนมาก่อนจนถึงกับสลบ ดังนั้นทุกคนต้องรู้ตัว หากใครไม่พร้อมก็ไม่ต้องเข้ามา

ตามฟอร์ม!”กลาโหมโทษ”สื่อเขียนไม่หมด

ขณะที่ในช่วงสายวันเดียวกัน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า อะไรที่ไปกระทบความรู้สึกพ่อและแม่ขของน้องเมย ตนขอกราบประทานอภัย อย่างไรก็ตามวันที่ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ตนก็อยู่ด้วย เป็นการตอบในภาพรวม ไม่ได้เจาะจงถึงตัวน้องเมย เป็นการพูดถึงระบบการปรับปรุงวินัย แต่สื่อเมื่อมีการยกไปเฉพาะบางส่วน ไม่ครบถ้วน ทำให้กระทบความรู้สึกของพ่อและแม่ จึงอยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อให้สังคมเข้าใจอย่างถูกต้อง ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะเราอยู่ในโหมดปรองดอง

ตีมึนต้องขอโทษเรื่องอะไร

ต่อข้อถามว่า ตัว พล.อ.ประวิตร จะออกมาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ขอโทษเรื่องอะไร วันนั้น พล.อ.ประวิตร ไม่ได้พูดถึงพ่อแม่หรือตัวน้องเมย เป็นการพูดในภาพรวม อย่างไรก็ตาม อยากให้เรื่องนี้ยุติไปก่อน รอความจริงปรากฏแล้วค่อยนำเสนอให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า การให้โรงเรียนเตรียมทหารที่เป็นหน่วยต้นสังกัดและเป็นหน่วยที่เกิดเหตุตรวจสอบ จะเกิดความโปร่งใสได้อย่างไร พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ในขั้นต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาก่อน เพราะเหตุเกิดที่จุดเดียว โรงเรียนเตรียมทหารเป็นหน่วยบังคับบัญชาสูงสุด ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกองทัพไทยซึ่งเป็นหน่วยบังคับบัญชา

ตีกันตั้งคนนอกมาสอบสวน

เมื่อถามย้ำว่า ต้องให้คนนอกมาสอบเรื่องนี้หรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า วันนี้เราทำสองส่วนแล้ว ทั้งการสอบข้อเท็จจริงว่า มีการกระทำเกินเลยที่ควรจะเป็นหรือไม่ และการพิสูจน์ด้านการแพทย์ เชื่อว่า ผลการสอบทั้ง 2 อย่างจะสอดรับกันและบอกถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน้องเมยได้

แฉผลสอบเตรียมทหารมีซ้อมโหดจริง

อย่างไรก็ตาม พล.ท.คงชีพ ยอมรับว่า พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทสส. ได้ส่งผลการสอบสวนของโรงเรียนเตรียมทหารให้กับ พล.ประวิตร แล้ว แต่เป็นผลการสอบสวนของคณะกรรมชุดที่ พล.ต.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดที่ ผบ.ทสส. เพิ่งแต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่ พล.ต.กนกพงษ์ แต่งตั้ง เป็นการตรวจสอบ 2 กรณี คือ กรณี น้องเมย ถูกรุ่นพี่ซ่อม เมื่อ 2 เดือน ก่อนเหตุการณ์เสียชีวิตในวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งทำให้น้องเมย หยุดหายใจไปชั่วขณะและแพทย์ได้ทำการปั้มหัวใจจนกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า เป็นการทำเกินกว่าเหตุ จึงได้สั่งลงโทษผู้เกี่ยวข้องและครอบครัวน้องเมย ไม่ติดใจเอาความ

ไม่พบใครเข้าไปทำร้ายในวันเสียชีวิต

ส่วนกรณีที่ 2 คือเหตุการณ์วันที่ 17 ต.ค. ที่ทำให้น้องเมยเสียชีวิต โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่จับภาพได้ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร รวมถึงสอบถาม เจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อน ๆ ของน้องเมย โดยพล.ต.กนกพงษ์ ได้ระบุในผลการสอบสวนว่า ยังไม่พบว่ามีผู้ใดไปทำร้าย นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 จนเสียชีวิต ก่อนจะส่งศพไปชันสูตรและแพทย์ลงความเห็นว่า เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งผลการสอบสวนทั้งหมดนี้ได้ส่งให้กับผู้บัญชาการทหารสูงสุด

ส่วนคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ ที่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดตั้งขึ้น โดยให้ พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร เป็นประธานนั้น อยู่ในระหว่างดำเนินการ ผลการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ

เด้งด่วนผู้บังคับการ-ผู้พันเตรียมทหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวันเดียวกัน พล.อ.ธารไชยยันต์ ได้ลงนามในคำสั่งกองทัพไทยที่ 104/2560 ปรับย้าย พ.อ.ฉัตรชัย ดวงรัตน์ ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการปัองกันประเทศ (ผบ.กรม.นร.รร.ตท.สปท.) ไปอยู่ในตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการประจำ บก.ทท. พร้อมแต่งตั้งให้ พ.อ.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ข้ามไปเป็น ผบ.กรม.นร.ตท.สปท. (พันเอกพิเศษ) แทน

นอกจากนั้น ได้สั่งย้าย น.ท.นพศิษฐ์ เพียรชอบ ผู้บังคับกองพันนักเรียน กรมนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ(ผบ.พัน.นร.กรม นร.รร.ตท.สปท.) ไปประจำ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน(นย.) และย้าย น.ท.ประเสริฐศิลป์ วรสิษฐ์ หัวหน้านายทหารฝ่ายสรรพาวุธ ฝ่ายสรรพาวุธ นย.มาเป็น ผบ.พัน.นร.กรม นร.รร.ตท.สปท.แทน

ผู้สื่อข่าวรายงาน ในคำสั่งกองทัพไทย ไม่ได้มีการระบุถึงเหตุผลในการปรับย้ายนายทหารทั้ง 4 นาย บอกเพียงอำนาจตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการ ปลด ย้าย เลื่อน และ ลดตำแหน่งข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2502 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 2 ข้อ 5 (2) อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้ มีผลสืบเนื่องจากกรณีที่ นตท.ภคพงศ์ เสียชีวิต

“บิ๊กตู่”เสียใจอย่างสุดซึ้ง

เย็นวันเดียวกัน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนักเรียนเตรียมหาร ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ ผู้เสียชีวิต และขอโทษแทนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายหากทำให้ประชาชนรู้สึกไม่สบายใจ โดยยืนยันว่าไม่ต้องการปกป้องใคร เพราะหากปกป้องอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ก็คงหาความสุขไม่ได้เช่นกัน ขณะนี้กำลังพยายามหาข้อเท็จจริงทั้งทางลับและเปิดเผย เพราะไม่อยากให้กระทบต่อการสอบสวน

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีจะฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งจากแพทย์ ครอบครัว อาจารย์ รุ่นพี่ เพื่อนของผู้เสียชีวิต โดยจะแสวงหาความจริงให้ได้ และจะต้องมีผู้รับผิดชอบหากมีการกระทำที่ไม่ถูกต้อง จึงขอวิงวอนให้สังคมเข้าใจและให้เวลากับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งหยุดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเกินเลย เพราะไม่เป็นผลดีแก่ผู้ใด โดยเฉพาะจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสียในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง กองทัพได้มีคำสั่งให้นายทหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลนักเรียนเตรียมทหารไปปฏิบัติหน้าที่อื่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และประชาชนเกิดความสบายใจ

“บิ๊กป้อม”ยอมเปิดปากขอโทษ

ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งตกเป็นเป้าโจมตีจากสังคมอย่างหนักนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน พล.อ.ประวิตร ได้ปิดปากเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ กระทั่งช่วงหัวค่ำ พล.อ.ประวิตร จึงออกมากล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้สั่งการให้ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทสส. ให้ความเป็นธรรมอย่างตรงไปตรงมา

“อะไรที่ผมพูดไปแล้วทำให้ไปกระทบกระเทือนครอบครัวของน้องเมยผมต้องขอโทษด้วย ผมยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายไม่เข้าข้างฝั่งทหาร ซึ่งในวันนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้มีคำสั่งย้ายผู้การและผู้พันโรงเรียนเตรียมทหาร” พล.อ.ประวิตรกล่าว

Cr. Naewna

สำนักข่าววิหคนิวส์