ไลฟ์สไตล์ » สุขภาพ » Berry ประโยชน์ดีกว่าที่คิด

Berry ประโยชน์ดีกว่าที่คิด

11 May 2017
594   0

ต้านหวัดได้ผลเกินร้อย

เพราะผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่นั้นขึ้นชื่อว่าอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคหวัด และยังช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้สดใส เปล่งปลั่ง และแก้มแดงมีเลือดฝาด มักพบมากในสตรอว์เบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, แครนเบอร์รี่ และเชอร์รี่ ดังนั้นถ้าใครเป็นหวัดอยู่ล่ะก็ แนะนำให้รีบหาเบอร์รี่มากินต้านหวัดกันด่วน

บำรุงสายตาให้สดใสบริ๊งค์ ๆ

เพราะสารแอนโธไซยานินที่พบมากในเบอร์รี่หลาย ๆ ชนิด เช่น สตรอว์เบอร์รี่, ราสป์เบอร์รี, เชอร์รี่ เป็นต้น มีส่วนช่วยในการป้องกันอาการอ่อนล้าจากการใช้สายตาอย่างหนัก และช่วยให้สายตาทำงานได้ดีขึ้นในที่มืด โดยเฉพาะในแบล็กเคอร์แรนต์ที่ช่วยให้จอตารับภาพในเวลากลางคืนได้ชัดขึ้น และอาซาอิเบอร์รี่ช่วยปกป้องการเสื่อมของเลนส์ตาและจอประสาทตา

เพิ่มระบบภูมิต้านทาน

เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินมากมาย เช่น A, B, C, E, K และโพแทสเซียม ฯลฯ ที่ร่างกายต้องการเพื่อช่วยให้เซลล์ในร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ทั้งการรักษาบาดแผล การป้องกันโรคมะเร็ง ลดการเป็นโรคลักปิดลักเปิด ตลอดจนโรคเกาต์หรืออาการปวดตามข้อ

อีกทั้งเบอร์รี่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยพบมากที่สุดในบลูเบอร์รี่ ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ให้ดียิ่งขึ้น ลดการอักเสบของหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ โรคทางประสาทและสมอง ตลอดจนสารสีแดงในเบอร์รี่ช่วยต้านความเสื่อมของร่างกายและชะลอความชรา ฟื้นฟูการสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยดูลบเลือนลง ให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย

เสริมความจำให้แม่นยำ

นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระในเบอร์รี่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณแล้ว ยังช่วยในเรื่องของระบบประสาทด้วย โดยจะช่วยให้เซลล์สมองสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น ทำให้ความสามารถในการจำของเราดีขึ้น ดังนั้นใครที่ขี้หลงขี้ลืมลองกินเบอร์รี่เป็นประจำดูสิ

ควบคุมน้ำหนักได้ผลเกินคาด

เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กำลังหาวิธีควบคุมน้ำหนักหรือลดความอ้วนง่าย ๆ แต่ได้ผล แนะนำให้ทานสตรอว์เบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ เพราะแหล่งพลังงานชั้นยอดที่มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นตาม เพราะเส้นใยอาหารในสตรอว์เบอร์รี่ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนานกว่าเดิม ช่วยในระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายของร่างกายให้ทำงานได้เป็นระบบมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ อีกทั้งในบลูเบอร์รี่ยังมีสารเพคตินที่ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยล้างพิษในร่างกายให้รู้สึกสดชื่น ผิวพรรณผ่องใส

ต้านโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ

โดยเฉพาะในแครนเบอร์รี่ที่สามารถป้องกันโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบได้มากกว่าเบอร์รี่ตัวอื่น ๆ เพราะมันสามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า อีโคไลน์ ต้นต่อของโรค รวมทั้งมีสารแทนนินที่มีส่วนช่วยหยุดการสะสมตัวและการเกาะตัวของแบคทีเรียในบริเวณผนังทางเดินปัสสาวะอันเป็นบ่อเกิดของโรคได้

สำนักข่าว vihoknews