ข่าวประจำวัน » #ตำนานเรื่องเล่าขาน!!….วันส่งเสด็จ “ในหลวง ร.9” กลับ สวรรค์

#ตำนานเรื่องเล่าขาน!!….วันส่งเสด็จ “ในหลวง ร.9” กลับ สวรรค์

27 October 2017
1572   0

– “หมอกอัศจรรย์”….ตั้งแต่เช้ามืด เกิด หมอก หนาตา ปกคลุม ทั่วพระนคร อากาศเย็นๆ แต่ทำใจหาย โดยเฉพาะ หมอกโดยรอบ พระเมรุมาศ ที่ในเวลานั้น เชื่อกันว่า พระบรมศพของ “ในหลวง ร.9″ ถูกอัญเชิญ มาประทับไว้ แล้ว ตั้งแต่เมื่อคืน25ตค.2560 ตามความเชื่อ…โดยที่วันสวรรคต ก็เกิดหมอก ที่เชื่อกันว่า คือหมอก”ธุมเกตุ” มาแล้ว

– “ฟ้าเปิด”….ท้องฟ้าสดใส แดดแรงกล้า สลับกับแดดร่ม ตลอดพระราชพิธี ตั้งแต่ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จนอัญเชิญพระบรมโกศ สู่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ แตกต่างจาก2วันก่อนหน้าที่ฝนตกหนักมาก

– บทพิสูจน์ความรัก”พ่อ”….พสกนิกรชาวไทย 157,778คน ตามที่ กอร.พระราชพิธีฯระบุ ที่ได้ผ่านจุดคัดกรองเข้ามาพื้นที่โดยรอบเส้นทางริ้วขบวน ส่วนด้านนอก อีกกว่า2แสนคน นั้น อดทนเพื่อ”พ่อ” ตากแดด รอส่งเสด็จ สู่สวรรค์ แม้มีร่มสีดำ กางเป็นระยะๆ ระหว่างรอริ้วขบวน แต่อากาศแสนร้อน ถึงขั้นต้อง เทน้ำใส่เสื้อผ้า ที่หน้าขา หัวเข่า และแผ่นหลัง เพื่อลดความรัอน แต่เสื้อผ้า ก็แห้งเร็วมาก…แต่ระหว่าง ทีมีริ้วขบวน ห้ามไม่ให้กางร่ม แต่พสกนิกร สู้แดด รอชมริ้วขบวนที่สวย สง่างาม สมพระเกียรติ และชมพระบารมี จนลืมความร้อน

-“หัวใจรัก” ….ก้อนเมฆ รูปหัวใจ ปรากฏให้เห็น ในขณะมีริ้วขบวน. ซึ่งตลอดช่วงการซ้อมริ้วขบวน ที่ผ่านมา ปรากฏเมฆรูปหัวใจ มาแล้ว2 ครั้ง

– “น้ำตากับเหงื่อปะปน”….ริ้วขบวน พลเอกประยุทธ์ นายกฯ ที่มี พลเอกธารไขยยันต์ ผบ.ทหารสูงสุด เดินข้างๆ และมี พลเอกธนะศักดิ์ พลเอก อุดมเดช เดืนตาม รวม8 นาย นั้น “นายกฯบิ๊กตู่” ดูจะเดินเซๆนิดหน่อย ยิ่งเข้่าใกล้ จะเห็น บิ๊กตู่ กระพริบตา ถี่ๆ ที่ทำให้คิดว่า ร้องไห้ แต่ทว่า คงไม่ใช่ เพราะ คงร้องไห้ ใจหาย มาตั้งแต่ ตอนอัญเชิญพระบรมโกศฯ หรือเดินมาแรกๆแล้ว เพราะ ใช้เวลาเดิน มากว่า ชม.ครึ่ง จาก นรด.จนถึง หน้ากลาโหม จึง

คาดว่า เพราะเหงิ่อไหลเข้าตา แต่ไม่อาจใช้มือปาดเช็ดเหงื่อได้….เรียกได้ว่า น้ำตากับเหงื่อ ปะปนกันจนแยกไม่ออก เช่นเดียวกับพสกนิกร

—“ร้ำไห้ทั้งแผ่นดิน”……พสกนิกร ร่ำไห้ระงม น้ำตาไหลพราก เสียงสะอื้น ตลอด2 ข้างทาง เมื่อพระมหาพิชัยราชรถ ที่มีพระบรมโกศ ประทับอยู่ เคลื่อนผ่าน ….ใจหาย ว่าถึงวันส่งเสด็จ สู่สวรรค์แล้วหรือนี่. ….โดย มีทหารชุดรักษาพระองค์สีแดง นำโดยนายทหารหญิง เดินถวายพระเกียรติ อย่างสง่างาม อยู่เบื้องขวาของพระราชรถ

–“พระราชพิธี หยุดโลก”….จาก0700น. ที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชพิธีในพระที่นั่งดุสิตฯ จน ทรงพระราชดำเนิน ตาม พระมหาพิชัยราชรถ ไปจนถึงพระเมรุมาศ สนามหลวง แล้วอัญเชิญพระบรมโกศ ขึ้นบนพระเมรุมาศ เสร็จสิ้นพระราชพิธี ในเวลา 15.05 น. แม้จะยาวนานกว่า8 ชม. ไม่นับรวมเวลาที่ ทั้งหมด มาเตรียมพร้อม ตั้งแต่ ตี5 แต่ทว่า ทหารริ้วขบวนทั้งหมด พร้อมตั้งแต่ ตี2 แต่ก็ไม่รู้สึกว่า ยาวนาน เพราะสวย สง่างาม เป็นประวัติศาสตร์ของชาติ และ ของโลก

-“ฟ้าร้องไห้”……หลัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสด็จกลับ เมื่อเสร็จพระราชพิธี อัญเชิญพระบรมโกศ ขึ้นพระเมรุมาศ แล้ว ฝน ก็ตกทันใด แรกๆ ตก แบบพอเดินฝ่าฝนได้. แต่ไม่นาน ก็ตกหนักมาก พสกนิกรเปียกปอนกันทั่ว แต่เสมือน ฟ้าร้องไห้

-“ปักษาส่งเสด็จ”…..ที่พสกนิกร อัศจรรย์ใจ ในห้วงเวลา แสนเศร้าและน่าใจหาย นั้น

ฝูงนกกระยางสีขาว บินผ่านพระเมรุมาศ ขณะจะทำพิธีถวายพระเพ ลิง (จริง)ราว4ทุ่ม ไม่ว่าจะนับกันได้ 9 ตัวหรือ10ตัว ก็ตาม ที่ เสมือน เป็นตัวแทน สกุณาปักษา มาเพื่อส่งเสด็จ

– “ควัน” โศกา…..ที่ใจหายที่สุด เมื่อ ควันพวยพุ่ง ออกมาจากพระเมรุมาศ ราว5ทุ่มเศษ จากเดิมที่เคยคิดว่า จะได้เห็นควัน หรือไม่ ….น้ำตาพสกรนิกร ไหลพรากอีกครา

มันคือ ความจริง ที่ “ในหลวง ร.9” ทรงลาจาก คนไทยไปแล้ว ทรงกลับคืนสู่สวรรค์ แต่พระองค์ จะยังคงสถิตย์ในหัวใจ คนไทย ……นิรันดร์

ที่มา : Wassana Nanaum

จิตตรา พงศธรพิพัฒน์

สำนักข่าววิหคนิวส์