พระพุทธะอิสระ ได้โพสข้อความ ระบุว่ส มหาหยกนำโทรศัพท์มายื่นให้ฉันแล้วบอกว่า ท่าน พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ขอเรียนสาย ฉันรับโทรศัพท์ท่านผู้การได้กล่าวแก่ฉันว่า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ทรงพระราชทานโอกาสให้เต็นท์อาหารจิตอาสาต่างๆ เข้าถวายความอาลัยกราบสักการะพระบรมศพแด่องค์พ่อหลวงผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง เป็นกรณีพิเศษในวันที่ ๑๖-๑๗ ต.ค. นี้
ทรงโปรดฯ พิจารณาเห็นว่า พวกเราเต็นท์จิตอาสาทั้งหลายได้เสียสละทำอาหารเลี้ยงแขกของพระองค์ท่านมาเป็นปี แต่ยังไม่มีโอกาสได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้แจ้งมายังเต็นท์อาหารทั้งหลายว่า ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เข้ากราบสักการะพระบรมศพได้ ๒ วันดังกล่าว
ฉันพอได้ฟังข่าวอันเป็นมงคลนี้ หัวใจพองโตขึ้นมาในทันที น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มเริ่มไหลซึมออกมา เหมือนดังองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจักทรงทราบถึงความรู้สึกของพสกนิกรผู้ถวายงานในพระองค์
พุทธะอิสระเป็นผู้หนึ่งที่ยังไม่เคยได้มีโอกาสได้เข้าถวายความอาลัยแด่องค์พ่อหลวงอย่างใกล้ชิดเลย
ตลอดเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา แม้จะอยู่ใกล้แค่กำแพงวังกั้น แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะได้เข้าเฝ้าพระบรมศพจวบจนถึงวันสุดท้ายที่สำนักพระราชวังประกาศยุติให้เข้ากราบ แต่ก็หาได้รู้สึกน้อยใจในวาสนาตนเองไม่
มาถึงวันนี้กลับได้มีโอกาสจะได้เข้าเฝ้ากราบสักการะพระบรมศพ ด้วยเพราะฟ้าทรงประทานโอกาส
จึงทำให้พุทธะอิสระรู้สึกหัวใจพองโตจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ฉันจึงแจ้งไปยังท่านรองเลขาสำนักพระราชวังว่า เช้าวันที่ ๑๗ เวลา ๘ โมงเช้า ฉันและคณะจะขอเฝ้าถวายความอาลัยต่อองค์พ่อหลวงมา ณ ที่นี้ด้วย
ขอถวายพระพรต่อล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑๐ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงข้าพระพุทธเจ้า
สำนักข่าววิหคนิวส์