วันที่ 31 ธันวาคม 2568 นายอนันตเดช ธนวิภารัตน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หมายเลข 12 เขตเลือกตั้งที่ 33 และนายธิติพัทธ์ นรวิทยโชติกุล ผู้สมัครหมายเลข 4 เขตเลือกตั้งที่ 32 พรรคเสรีรวมไทย เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านและขอให้เพิกถอนการรับสมัครผู้สมัครรายใหม่ของพรรคประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 33

นายอนันตเดช เปิดเผยว่า การเดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขอให้ กกต. พิจารณาเพิกถอนการรับสมัครผู้สมัครรายใหม่ของพรรคประชาชน เนื่องจากผู้สมัครคนเดิมได้รับการรับสมัครและมีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว โดยอ้างอิงตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดให้พรรคการเมืองหรือผู้สมัครสามารถถอนหรือเปลี่ยนแปลงผู้สมัครได้เฉพาะกรณีผู้สมัครเสียชีวิต ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายเท่านั้น
นายอนันตเดช ระบุว่า กรณีผู้สมัครคนเดิมถอนตัวไม่ได้เข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย เนื่องจากแม้จะมีหมายจับ แต่ในทางกฎหมายยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้นในช่วงเวลาที่มีการรับสมัครและได้รับหมายเลข ผู้สมัครคนเดิมยังมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย การลาออกภายหลังจึงเป็นการลาออกโดยเจตนาส่วนตัว ไม่ใช่เหตุที่กฎหมายกำหนดให้เปลี่ยนตัวผู้สมัครได้แม้ กกต. จะชี้แจงว่าสามารถรับสมัครผู้สมัครรายใหม่ได้ แต่นายอนันตเดชเห็นว่าควรยื่นเรื่องให้ กกต. พิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง
เนื่องจากการเปลี่ยนตัวผู้สมัครในลักษณะนี้อาจสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับพรรคการเมืองอื่นในอนาคต และอาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย รวมถึงสร้างความสับสนให้กับประชาชน พร้อมยืนยันว่า การยื่นคัดค้านครั้งนี้ไม่ได้มุ่งหวังถึงความได้เปรียบหรือเสียเปรียบทางการเมือง เนื่องจากในเขตดังกล่าวยังมีผู้สมัครจากพรรคอื่นอีกจำนวนมาก แต่ต้องการยืนหยัดในหลักกติกาและมาตรฐานการเลือกตั้งที่ถูกต้องด้านนายธิติพัทธ์ กล่าวเสริมว่า ผู้สมัครคนเดิมคือ นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ยังไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดใดๆ เนื่องจากศาลยังไม่มีคำพิพากษา แต่กลับมีการเปลี่ยนตัวให้นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร มาสมัครแทน โดยยังใช้หมายเลขเดิม
ซึ่งมองว่าไม่เหมาะสมและอาจเป็นการสร้างกระแสทางการเมืองให้กับพรรคประชาชน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การส่งอดีต สส. ลงสมัครแทนอาจเป็นความพยายามหวังคะแนนนิยมจากประชาชน
นายธิติพัทธ์ ยังระบุว่า การที่ผู้สมัครรายใหม่ใช้หมายเลขเดิม ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรายอื่น และหากเป็นผู้สมัครใหม่ก็ควรต้องจับสลากหมายเลขใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบ พร้อมย้ำว่า เขตเลือกตั้งที่ 32 และ 33 มีความเกี่ยวเนื่องกันในการทำงาน จึงเห็นว่าประเด็นดังกล่าวส่งผลต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยตรงทั้งนี้ ผู้สมัคร สส. เขต 32 และ 33 พรรคเสรีรวมไทย ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อคัดค้านการรับสมัครนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ผู้สมัคร สส. เขต 33 กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน
โดยอ้างอิงตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 46 ที่บัญญัติชัดเจนว่า ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองจะถอนหรือเปลี่ยนแปลงผู้สมัครได้เฉพาะกรณีผู้สมัครเสียชีวิต ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม และต้องดำเนินการก่อนปิดรับสมัครเลือกตั้งจากการพิจารณาเห็นว่า
นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัครคนเดิม ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและการรับรองจากพรรคการเมือง รวมถึงได้รับหมายเลขประจำตัวผู้สมัครอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว และยังไม่ปรากฏว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้สมัครได้ ทำให้การรับสมัครผู้สมัครรายใหม่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายเลือกตั้ง
