ข่าวสด – ‘ชลน่าน’ ปูด น่านเริ่มเก็บสำเนาบัตรประชาชน จ่ายหัวละ 300 บาท คนเดินเก็บได้ 50 บาท หวั่นการซื้อเสียงระบาดหนัก วอนหน่วยงานรัฐตรวจสอบ
วันที่ 26 ธ.ค.2568 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร สส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะถึงนี้ ว่า เป็นการเลือกตั้งในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพราะยังมีการสู้รบกันระหว่างกองทัพไทยและกองทัพกัมพูชา
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีหลายจังหวัดที่ประสบเหตุน้ำท่วมอยู่ อยู่ระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่ รวมถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เลือกยุบสภาก่อนกำหนดเพื่อหนีการตรวจสอบของฝ่ายค้าน สถานการณ์ปัจจุบันหลายฝ่ายมองว่าเป็นยุคที่เงินนอกระบบหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าทุนเทาระบาดไปทุกวงการ ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ปกติ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร สส.น่าน พรรคเพื่อไทย
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งรอบนี้คาดกันว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่ทุกพรรคการเมืองใช้ทุกกลยุทธ์และทุกวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในสนามเลือกตั้ง เพราะก่อนการเลือกตั้งมีบางพรรค ใช้ทุกวิธีการรวบรวมสมาชิกพรรค และดูดอดีตสส.จากทุกพรรคการเมืองให้ได้มากที่สุด
ซึ่งมีรายงานข่าวว่ามีการใช้ทุน ใช้เงิน เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการโน้มน้าวสส.ให้หลายคนย้ายขั้ว ย้ายค่ายเพื่อลงเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการกินรวบประเทศได้ ฉะนั้น จากปัจจัยดังกล่าวเชื่อว่าจะมีการกลั่นแกล้งกันทางการเมืองสูงมาก
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุใดนักวิเคราะห์ทางการเมืองหลายท่านจึงประมาณการณ์ว่าการเลือกตั้งในปี 2569 คาดว่าจะเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้มาก
“ทั้งนี้จากการลงพื้นที่พบว่าในพื้นที่จังหวัดน่านมีกลุ่มคนเริ่มออกปฏิบัติการที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายเลือกตั้ง คือเริ่มมีการเก็บสำเนาบัตรประชาชน ตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งคนเดินเก็บสำเนาได้ใบละ 50 บาท และเจ้าของบัตรจะได้รับจำนวน 300 บาท ส่วนวัตถุประสงค์ในการเก็บไม่ชัดเจน
ขณะที่ชาวบ้านก็ไม่ได้มีการเขียนกำกับว่าไปใช้เพื่อการใด หวั่นใจว่าจะนำสำเนาบัตรประชาชนที่เก็บไปนำใช้ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหาย เช่น กลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือกลุ่มอาชญากรรมทางไซเบอร์นำไปเปิดบัญชีม้า ซึ่งอาจจะส่งผลให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อน อาจตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดีได้
ดังนั้น ผู้มีส่วนรับผิดชอบต้องตรวจสอบและร่วมกันป้องกันปัญหาดังกล่าว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายและส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ได้ อยากให้ประชาชนรู้เท่าทันกับความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว” นพ.ชลน่าน กล่าว
