ข่าวประจำวัน » หนาวมาแรง !! อุตุฯเตือนลมหนาวจีนส่งผล 13-16 พ.ย.นี้อากาศจะลดลง 2-4 องศาฯ

หนาวมาแรง !! อุตุฯเตือนลมหนาวจีนส่งผล 13-16 พ.ย.นี้อากาศจะลดลง 2-4 องศาฯ

10 November 2025
24   0

กรมอุตุนิยมวิทยา – พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า: ในช่วงวันที่ 10 – 12 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนไปปกคลุมประเทศเมียนมา ในขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากยังคงมีลมตะวันตกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

ส่วนในช่วงวันที่ 13 – 16 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง กับมีลมแรง

คาดหมายอากาศทั่วไป

วันที่ 10 – 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

 สำหรับในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 
               อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ฟงวอง”(Fung-wong) บริเวณทะเลจีนใต้ด้านตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นไปทางทะเลจีนใต้ตอนบนและช่องแคบไต้หวัน ในช่วงวันที่ 12 – 13 พ.ย. 68 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 13 – 16 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง กับมีลมแรง ส่วนประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง

ออกประกาศ 10 พฤศจิกายน 2568 12:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค

วันที่ 10 – 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 16 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 32 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 33 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 18 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11 – 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ 
ลมตะวันตก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย.
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. 
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดตรังลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

ออกประกาศ 10 พฤศจิกายน 2568 12:00 น.