อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ฟันเปรี้ยง!‘อิ๊งค์’ไม่รอด ทำเสื่อมเสียนายกฯไทย ครม.ไปทั้งคณะ
วันที่ 20 ส.ค.68 นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และ อดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เขียนบทความลงเฟสบุ๊ค ถึงคดีของแพทองธาร ชินวัตร มีเนื้อหาสำคัญ ดังนี้
แพทองธารต่อสู้ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ตนพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะเข้าทาง ฮุน เซน ที่สามารถกำหนดทิศทางการเมืองของประเทศไทยได้
ผู้เขียนเห็นว่า หากตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของไทย แพทองธารต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลทำให้รัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องสั่ง หากไม่สั่ง ศาลรัฐธรรมนูญจะกลายเป็นผู้ละเมิดรัฐธรรมนูญเสียเอง
เมื่อรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งไป รัฐธรรมนูญได้บัญญัติกลไกให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการให้มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าบริหารราชการแผ่นดินต่อเนื่องกันไป แม้อาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม กรณีเช่นนี้ จะได้เป็นบทเรียนแก่พรรคการเมืองในการคัดกรองบุคคลมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเป็นบทเรียนแก่ประชาชนที่จะพิจารณาตัดสินใจในการใช้สิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้ง สส. ต่อไป
นอกจากนี้ ผู้เขียนเห็นว่า นอกจากปัญหาว่า แพทองธารขาดความซื่อสัตย์สุจริตอันเป็นที่ประจักษ์หรือไม่แล้ว ในส่วนปัญหาการฝ่าฝืนจริยธรรมนั้น ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะต้องพิจารณาว่า แพทองธารพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือไม่
ส่วนผู้เขียนเห็นว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของจิ้งจอกเฒ่ากับลูกแกะ ส่งผลให้ทำลายเกียรติภูมิของนายกรัฐมนตรีไทย เธอได้กระทำการที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนเป็นที่ดูแคลนของผู้คนทั้งภายในและระหว่างประเทศ