ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #”คนอยากเลือกตั้ง”เสนอยุบคสช.เหลือแต่รัฐบาลรักษาการ-จัดเลือกตั้งปีนี้

#”คนอยากเลือกตั้ง”เสนอยุบคสช.เหลือแต่รัฐบาลรักษาการ-จัดเลือกตั้งปีนี้

11 March 2018
532   0

กลุ่ม “ฟื้นฟูประชาธิปไตย” แถลงข่าวและปราศรัยที่ มธ. ชี้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเรื่อง ส.ส.-ส.ว. ผ่านแล้ว สามารถจัดเลือกตั้งได้ภายในปีนี้ คสช. ไม่จำเป็นต้องอยู่แล้ว “รังสิมันต์ โรม” เรียกร้องยุบ คสช. คงเหลือแต่รัฐบาลรักษาการทำหน้าที่จัดเลือกตั้งภายในปีนี้ เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ย้ำประเทศไทยไม่ต้องการให้ทหารอยู่ในการเมืองอีกแล้ว

10 มี.ค. 2561 เมื่อเวลา 16.30 น. กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) ตั้งโต๊ะแถลงข่าว “รวมพลังถอนราก คสช.” ที่มุมสนามฟุตบอล ด้านตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาเฝ้าและดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย โดย พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม ระบุว่าผู้จัดชุมนุมได้ขออนุญาตจัดชุมนุมโดยจะขอใช้สนามฟุตบอลตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.30 น.

ในช่วงแถลงข่าวรังสิมันต์ โรม แกนนำ DRG ย้ำจุดยืนเดิมว่าทางกลุ่มยังเชื่อว่าการเลือกตั้งสามารถเกิดขึ้นได้ในเดือนพฤศจิกายน 2561 แต่การที่ สนช. เลื่อนการใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้ง ส.ส. ไป 3 เดือน รวมทั้งการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. สะท้อนความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นในปีนี้ แต่จะเลื่อนไปอย่างน้อยจนถึงปีหน้า

ทั้งนี้ยังมีข้อเสนอเลิก คสช. คงเอาไว้แต่รัฐบาลรักษาการ เพื่อทำหน้าที่เปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย เอาทหารออกจากการเมือง ทั้งนี้ไม่มี คสช. มีแค่รัฐบาลรักษาการ การเลือกตั้งก็สามารถเกิดได้ ประเทศไทยไม่ต้องการให้ทหารอยู่ในการเมืองแล้ว คสช. ที่บอกว่าเข้ามาเพื่อรักษาความสงบนั้น ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว บัดนี้ประเทศไทยต้องการกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตย

ด้านสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” กล่าวด้วยว่าประเทศไทย สังคมไทย อยู่กันต่อได้โดยไม่ต้องมี คสช. คงเหลือแค่รัฐบาลรักษาการนำไปสู่การเลือกตั้งที่จริงใจ เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้การคงไว้ซึ่ง คสช. ไม่มีหลักประกันที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะที่ผ่านมา คสช. ใช้อำนาจพิเศษในการบริหารราชการแผ่นดินทุกด้าน สิ่งที่เสนอคือ คสช. ต้องยุติการทำงาน เพราะประเทศไทยมีแค่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยก็พอแล้ว ไม่ต้องมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

หลังแถลงข่าวสิรวิชญ์ หรือ “จ่านิว” นำประชาชนทำกิจกรรมทางสัญลักษณ์ ถอนราก คสช. โดยให้ผู้เข้าร่วมลากรถถังจำลอง “เมื่อ 4 ปีที่แล้ว คสช. ได้ปลูกต้นไม้พิษไว้ต้นหนึ่ง ตอนนี้รากมันยังเป็นรากฝอย แต่ถ้าปล่อยไว้อีกสองสามปีมันจะเป็นรากแก้ว”

“ขอให้วันนี้เป็นหมุดหมายเพื่อถอนรากของ คสช. ให้หมดไปจากสังคมไทย” จ่านิวกล่าว

นอกจากนี้ยังมีการปราศรัยบนเวทีที่ทำจากรถบรรทุกติดเครื่องเสียง โดยพริษฐ์ ชิวารักษ์ กล่าวว่า 4 ปีของการรัฐประหารเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบกระโดดลงคลอง คำสั่ง คสช. ทำให้ผมต้องเรียนวิชาเพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นคือวิชาหน้าที่พลเมือง เขาให้เราท่องค่านิยม 12 ประการ ผมจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้างเพราะทุกคนก็รู้ว่ามันมีไว้ล้างสมองเด็ก”

“การเมืองจะไปต่อได้ไม่ใช่แค่ คสช. ออกไป แต่คือการสะสางอำนาจเก่าที่สะสมมานาน จะต้องไม่มีรัฐประหารครั้งไหนอีกในสังคมไทย”

ปิยรัฐ จงเทพ (โตโต้)

ต่อมาปิยรัฐ จงเทพ (โตโต้) ปราศรัยว่า “ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศยากจน ถ้าไม่ติดวังวนรัฐประหารซ้ำซ้อนและภาวะรัฐซ้อนรัฐ ไทยก็ไม่ต้องมาเปรียบเทียบกับสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เราจะก้าวหน้าไปไกลกว่านี้”

“ทั้งนี้ไทยมีรัฐวิสาหกิจทั้งที่จดและไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 56 องค์กร มีสินทรัพย์รวม 14 ล้านล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 1.5 แสนล้าน แต่ คสช. เข้ามา ให้ทหารไปนั่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจแล้ว 80 คน ถ้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้งไม่มีใครยอมรับหรอก”

“ข้างใน (การไฟฟ้านครหลวง) มีคนที่รอวันมาเข้าร่วมกับพี่น้อง ตั้งแต่ระดับช่างจนถึงผู้บริหาร ทุกวันนี้ไม่มีคำว่าเป็นกลาง มีแต่บ้านเมืองแบ่งเป็นสองสีแล้วว่าจะเอาประชาธิปไตยหรือเผด็จการ”

ณัฏฐา มหัทธนา

ณัฏฐา มหัทธนา ขึ้นปราศรัย ระบุถึงผลเสียของการยึดอำนาจของ คสช. ว่า รัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้าน สื่อไม่มีเสรีภาพในการทำข่าวว่า เหมือนประชาชนได้พ่อบ้านมาหนึ่งคน แล้วก็ฝากกุญแจลิ้นชักเอาไว้กับพ่อบ้าน เท่ากับพ่อบ้านจะไขลิ้นชักเอาเงินก็ได้ หรือจะเอาเงินไปซื้อปืนมายิงประชาชนก็ได้ การที่ประยุทธ์ใช้เวลาช่วงไพรม์ไทม์ ไปออกโทรทัศน์ทุกวันศุกร์สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมสื่อเพราะขาดรายได้ช่วงดังกล่าว นอกจากนั้น นโยบายไทยนิยมที่ออกมาแล้วให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่พลเรือนกับทหาร ในการลงไปให้ความรู้ สอบถามความต้องการชาวบ้านก็เป็นเรื่องที่นอกเหนือขอบเขตของทหาร และการที่เพิ่งมาทำในโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งถือว่าผิดมารยาททางการเมืองในฐานะรัฐบาลรักษาการก่อนจะเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ควรทำหน้าที่เพียงดำเนินการส่งต่องานให้รัฐบาลหน้า

อานนท์ นำภา

อานนท์ นำภา ขึ้นปราศรัย ระบุว่า ความตั้งใจของ คสช. คือ ให้มีการเลือกตั้งแล้วตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพื่อที่ คสช. จะดำรงอยู่ในอำนาจต่อ ตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญมาตรา 265 วรรค 1 (ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้ รัฐธรรมนูญนี้ ยังคงอยู่ในตําแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลัง การเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่) โดยทำให้การเมืองหลังเลือกตั้งถึงทางตัน หานายกฯ คนนอก และนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งได้ยากตามระบบการเลือกตั้งที่ถูกเปลี่ยนแปลง จึงขอให้ประชาชนกดดันให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งสภาอยู่ตรงข้ามกับฝั่งเผด็จการ

“เราต้องเดินไปกดดัน ส.ส. 500 คนให้ยืนอยู่ตรงข้ามกับ คสช. เราต้องเดินไปกดดันพรรคการเมืองแต่ละพรรค ให้แสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะอยู่ข้างประชาชนหรือเผด็จการ วันนี้พรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนตรงข้ามเผด็จการแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยังอ้ำๆ อึ้งๆ พรรคอื่นก็มีสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์”

“เรามีนัดกันอีกครั้งที่นี่ในวันที่ 24 มี.ค. ขอให้พี่น้องต่างจังหวัดจองรถ จองเครื่องมาชุมนุมให้เต็มสนามฟุตบอล มธ. มาแสดงให้เห็นว่าประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” อานนท์ กล่าว

จ่านิว ขึ้นปราศรัยต่อจากอานนท์ สะท้อนกรณีที่นิสิตฝึกงานจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามเปิดโปงการโกงงบช่วยเหลือคนจนในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า รมว.พม. ออกมาบอกว่าจะแก้ปัญหาด้วยการใช้มาตรา 44 ซึ่งจ่านิวตั้งข้อสงสัยว่า แล้วบ้านเมืองนี้มีขื่อมีแปหรือเปล่า

“สิ่งที่เกิดขึ้นคือการที่ คสช. มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ทำให้เกิดความเสื่อม นี่คือสัจธรรมที่โลกสอนให้รู้ว่า อำนาจเบ็ดเสร็จนำไปสู่ความเสื่อม เพราะอำนาจมันไม่ชอบธรรมตั้งแต่ยึดอำนาจมาตั้งแต่แรกแล้ว”

“วันนี้ข้อเสนอของเราต้องไปถึง พล.อ. ประยุทธ์ ต่อให้เขาจะปิดเฟซบุ๊ค ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่เราจะส่งเสียงของเราไปให้ถึง…ให้เลือกเอาอว่าจะลงจากอำนาจไป แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งที่เสรี บริสุทธิ์ ยุติธรรม หรือจะจบแบบเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส(ประธานาธิบดีเผด็จการฟิลิปปินส์ที่ปกครองประเทศเป็นเวลาเกือบ 21 ปี และพ้นจากตำแหน่งโดยการหลบหนีออกนอกประเทศ หลังการลุกฮือของประชาชน ในปี 2529)” จ่านิวกล่าว

รังสิมันต์ โรม

รังสิมันต์ โรม ขึ้นปราศรัยต่อจากจ่านิว โดยเชิญชวนประชาชนให้ออกมาต่อสู้จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยคืนมา และเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. ลงจากอำนาจ หยุดลากเลือกตั้งออกไป

“เราเสียเลือดเนื้อมานาน หลายคนที่บ้านก็บอกว่าไม่อยากมาแล้ว แต่เราต้องการทุกคนเพื่อสิ่งที่พวกเราต้องการที่สุด คือประชาธิปไตย”

“หลายปีที่ผ่านมาประชาชนเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเดียว หลายคนเลยคิดว่าอยู๋บ้านดีกว่า ซึ่งถ้าเราไม่สู้เราก็แพ้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเราออกมาสู้ ขอแค่ครั้งเดียวที่เราชนะ แล้วมันจะเปลี่ยน เราจะเห็น พล.อ.ประยุท์ ใส่โซ่ตรวจและชุดนักโทษเหมือนที่พวกเราเคยใส่”

“พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าต้องใช้โครงการไทยนิยมเพื่อสร้างความยั่งยืนด้วยการส่งเจ้าหน้าที่รัฐลงไปตามหมู่บ้านเพื่อถามว่าชาวบ้านมีปัญหาอะไร ต้องการอะไร เพราะท่าน (ประยุทธ์) รู้ดีว่าท่านไม่เหลือกองหนุนแล้ว ท่านจึงหันมาหาประชาชน ทั้งที่ 4 ปีที่ผ่านมาท่านไม่เห็นหัวประชาชนเลย”

รังสิมันต์ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาล คสช. หยุดลากการเลือกตั้ง ลงจากอำนาจ หยุดผูกขาดชาติไทยไว้ที่ทหาร ชาติจะต้องเป็นของประชาชน และมีข้อเรียกร้องสองประการ หนึ่ง ยุบ คสช. เอาหทารออกจากการเมืองไทย ให้ไทยมีการเมืองที่เปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่ อย่าสร้างกติกาที่ไม่เป็นธรรม พอกันทีกับกฎหมายที่ละเมิดสิทธิ เสรีภาพ สอง ต้องปลดอาวุธ คสช. ยุติการใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 57/2557 ให้พรรคการเมืองดำเนินกิจการให้เต็มที่ ให้ประชาชนแสดงพลังได้อย่าเต็มที่

กิจกรรมสิ้นสุดลงในเวลาราว 20.30 น. โดยผู้เข้าร่วมชุมนุมต่างเก็บขยะและแยกย้ายกลับ

ช่วงท้ายของกิจกรรม “รวมพลังถอนราก คสช.” โดยจ่านิว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ เผย 18 มี.ค. เตรียมจัดกิจกรรมในพื้นที่ภาคใต้โดยจะเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนในกรุงเทพฯ จะจัดกิจกรรมอีกครั้งวันที่ 24 มี.ค.

Cr.prachatai

สำนักข่าววิหคนิวส์