พนักงานสอบสวนปิดบัญชีคดีครูจอมทรัพย์เรียบร้อยแล้ว สั่งฟ้องกราวรูด 11 ราย รวมทั้งทนายความข้อหาให้การอันเป็นเท็จ พร้อมยื่น ป.ป.ช.ฟัน 14 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอผิดละเว้นหน้าที่ เตือนประชาชนอย่าแจ้งเท็จ ให้ใช้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์

เบื้องต้นผู้ต้องหาบางคนให้การรับสารภาพ และมีบางรายที่ให้การภาคเสธ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนสั่งฟ้องให้กับพนักงานอัยการ
พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวว่า ส่วนเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม 14 คน ได้ส่งเรื่องให้กระทรวงการยุติธรรมเพื่อพิจารณาว่ามีผู้ใดดำเนินการผิดวินัยหรือไม่ ส่วนเรื่องของประมาทเลินเล่อ หรือปล่อยปละละเลย และการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ สำหรับผู้ที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทางคณะทำงานจะได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการพิจารณา ซึ่งได้ส่งเอกสารให้ ป.ป.ช.แล้ว ถือว่าคดีนางจอมทรัพย์ได้ปิดคดีเป็นที่เรียบร้อยก่อนสิ้นปี
พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวอีกว่า การคลี่คลายคดีเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรม ทั้งชั้นพนักงานสอบสวนของตำรวจ และพนักงานอัยการ ที่มีความเห็นทางคดีและนำคดีขึ้นฟ้องต่อศาล รวมถึงการพิจารณาของศาล มีความเที่ยงตรง แม่นยำ และเป็นธรรมตามข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่าคนทำงานก็ต้องรับผิด แต่คนทำผิดแล้วไม่รับผิดกลับบอกว่าตัวเองเป็นแพะ และนำพยานหลักฐานเท็จมาพิสูจน์ ก็ต้องถูกดำเนินคดี
“คดีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ว่า ใครก็ตามที่คิดจะสร้างพยานหลักฐานเท็จมาเบิกความก็อย่าได้กระทำ เพราะตามกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าจะแจ้งความที่โรงพัก หรือเบิกความที่ศาลจะต้องมือสะอาด จึงจะได้รับความคุ้มครอง หากมือไม่สะอาด นอกจากจะไม่ได้รับความคุ้มครอง ยังต้องได้รับโทษจากการกระทำ ถือเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ ยื่นพยานเอกสารเท็จ มีอัตราโทษสูงจำคุก” โฆษก ตร.กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์

