สงครามไทย – กัมพูชา : ใครคือมิตร และศัตรูของไทย?
กฎข้อแรกของยุทธศาสตร์การทำสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชา คือต้องจำแนกมิตรและศัตรูออกจากกันให้ชัดเจนและ เด็ดขาดตั้งแต่เริ่มต้น ต้องรู้ว่าใครคือมิตรของเรา และใครคือศัตรูของเรา หากไม่มีการกำหนดว่าใครเป็นมิตรของเรา อย่างชัดเจน ไม่มีการกำหนดว่าใครเป็นศัตรูของเราอย่างชัดเจน เราก็ไม่มีวันเอาชนะสงครามได้อย่างแน่นอน ต่อให้วันนี้ถึงเราจะมีกำลังเป็นต่อเหนือกว่ากำลังของศัตรูอย่างมากมาย แต่ไม่ช้านานกำลัง ของเราก็จะค่อยๆ อ่อนแอลง และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในที่สุด หากเรามีการกำหนดยุทธศาสตร์การทำสงครามได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม แม้ ในตอนเริ่มต้น เราจะมีกำลังน้อยกว่าข้าศึกมาก แต่ไม่ช้านาน เราก็จะกลับมามีกำลังเหนือกว่าข้าศึก และจะกลับมาเป็นฝ่ายที่สามารถเอาชนะ ข้าศึกได้ในที่สุด
หลายวันที่ผ่านมาหลังจากที่สงครามระหว่างไทยกับกัมพูชาเริ่มต้นขึ้น ผมอ่านข้อความต่างๆที่เผยแพร่อยู่ทั่วไปในโซเชียลมีเดียแล้ว มีความกังวลใจบางประการเกิดขึ้น ผมพบว่ามีคนไทยจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถจำแนกมิตรและศัตรูของไทยออกจากกันได้อย่างชัดเจนและเหมาะสม พวกเขาจะด้วยความสุจริตใจ หรือเพราะความไร้เดียงสาทางการเมือง หรือไปรับเอาข่าวเท็จจากฝ่ายตะวันตก หรือเป็นแผนของฝ่ายตรงกันข้าม รวมถึงอาจเป็นพวกกลุ่มรับจ้างก็ตาม ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยเริ่มหวั่นไหวจนเกิดความไม่ไว้วางใจต่อรัสเซียและจีน บางพวกถึงขนาดสรุปว่ารัสเซียและจีนเป็นฝ่ายสนับสนุนกัมพูชา คนกลุ่มนี้ไม่ว่าจะกระทำโดยสุจริตใจหรือไม่ แต่พฤติกรรมของพวกเขาในขณะนี้ไม่ต่างจากการเป็นพวกก่อกวน ก่อความวุ่นวายทางการเมือง หรือเป็นไส้ศึกให้แก่ฝ่ายศัตรู เพราะพวกเขากำลังทำหน้าที่ผลักมิตรประเทศของเราให้กลายเป็นศัตรูไปแทน
พวกเขาพยายามโฆษณาป่าวร้องว่าจีนและรัสเซียให้การสนับสนุนกัมพูชา และทั้งสองชาติมีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์กับประเทศไทย ผมเห็นว่า สำหรับคนกลุ่มนี้ยังมีทัศนะที่มองปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับไทยและจีนกับไทยอย่างตัดตอนประวัติศาสตร์ และแสดงความเห็นโดยปราศจากความรับผิดชอบต่อประเทศ เพราะพวกเขาไม่ได้ใช้ทัศนะทางประวัติศาสตร์ และข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับรัสเซียและระหว่างไทยกับจีนมาพิจารณาปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
ประเทศไทยกับรัสเซียมีความสัมพันธ์อันดีในทางประวัติศาสตร์มาโดยตลอดตั้งแต่ในสมัยพระเจ้าซานิโคลัส กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 รัสเซีย เป็นชาติยุโรปชาติเดียว ที่ได้ช่วยเหลือไทยให้รอดพ้นจากการถูกอังกฤษและฝรั่งเศส ข่มขู่ คุกคามในการล่าอาณานิคมในขณะนั้น การช่วยเหลือของรัสเซียมีส่วนให้ไทยรอดพ้นจากการตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศส และประวัติศาสตร์ระยะใกล้ ยังแสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อประเทศไทยมาก โดยการเคารพยกย่องต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สูงมาก และจนกระทั่งถึงบัดนี้ รัสเซียยังไม่เคยแสดงให้เห็นถึงความเป็นปฏิปักษ์ใดๆต่อประเทศไทยเลยแม้แต่น้อย
เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน ที่รัฐบาลจีนย้ำถึงสถานะความผูกพันระหว่างสองประเทศที่มีลักษณะพิเศษต่างจากประเทศอื่นๆมาโดยตลอดว่า “ ไทยจีนมิใช่อื่นใด หากแต่เราเป็นพี่น้องกัน” สิ่งที่จีนพูดกับไทยไม่ใช่เป็นเพียงคำหวานไพเราะเสนาะหู หากแต่เป็นคำกล่าวที่มาจากใจจริงเสมอมา ในวันที่ประเทศไทยยากลำบากที่สุดเมื่อกองทัพเวียดนามประกาศจะบุกเข้ากรุงเทพฯ หลังจากเอาชนะเขมรแดงได้แล้ว ไทยมีความหวังว่ามหามิตรเดียวของเราคือสหรัฐจะช่วยเหลือ ปกป้องคุ้มครองประเทศไทยบ้าง เพราะเราเคยส่งทหารไทยไปช่วยสหรัฐรบ ทั้งที่เกาหลีใต้ เวียดนามและลาวมาก่อน แต่สหรัฐกลับนิ่งเฉย ปล่อยให้เราเผชิญกับชะตากรรมโดยลำพัง และโดยไม่สนใจใยดี มีแต่จีนเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้ของเราในยามยาก โดยจีนได้ส่งกำลังทหารนับแสนนาย เข้าโจมตีเวียดนามทางตอนเหนือ เพื่อดึงกำลังทหารเวียดนามส่วนใหญ่ออกจากกัมพูชาไปเพื่อป้องกันประเทศ ของตนเอง ทำให้ประเทศไทยสามารถรอดพ้นจากวิกฤตที่เป็นภัยคุกคามจากนอกประเทศครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งไปได้ โดยประเทศจีนต้องยอมเสียสละกำลังทหารไปเป็นจำนวนไม่ใช่น้อยเพื่อปกป้องคุ้มครองให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการ คุกคามของเวียดนาม และจีนไม่เคยกล่าวอ้างเพื่อทวงบุญคุณหรือเรียกร้องสิ่งตอบแทนใดๆจากไทยเลย
เมื่อประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตต้มยำกุ้งในปีพศ 2540 จีนเป็นประเทศแรกที่ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ประเทศไทย แต่สหรัฐกลับไม่ให้ความช่วยเหลือเราแม้แต่ดอลลาร์เดียว และเมื่อไทยเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่หาดใหญ่เมื่อไม่กี่วันก่อน จีนให้ความช่วยเหลือแก่เรามากกว่า 60 ล้านบาท แต่สหรัฐก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เรา เช่นเคยเหมือนที่ผ่านๆมา
เมื่อใช้จุดยืนและทัศนะทางประวัติศาสตร์ มาพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับไทย จีนกับไทยและสหรัฐกับไทยแล้ว เราจึงไม่ควรเคลือบแคลงสงสัย หรือตั้งข้อสงสัยต่อรัสเซียและจีน ว่ามีความจริงใจต่อไทยจริงหรือไม่ หรือมากน้อยเพียงใด ผมคิดว่าผลประโยชน์ของรัสเซียและจิีนในปัจจุบัน คือสันติภาพและสันติสุขของโลก ไม่ใช่สงคราม รัสเซียและจีนไม่มีความจำเป็นต้องหาผลประโยชน์ใดๆจากสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชา การไม่มีสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชาต่างหาก ที่เป็นที่พึงปรารถนาและเป็นผลประโยชน์ โดยแท้จริงในขณะนี้ทั้งของรัสเซียและจีน
ผมมีความปรารถนาว่าคนไทยที่รักชาติจะมองเห็นสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันจากมุมมอง ทางประวัติศาสตร์ และสามารถจำแนกได้ว่าใครคือมิตร และใครคือศัตรูที่แท้จริงของไทยในศึกสงครามระหว่างไทยกัมพูชาในครั้งนี้
ผมเห็นว่ามิตรประเทศของเรา ไม่จำเป็นที่จะต้องคิดหรือทำเหมือนกับไทยไปเสียทุกเรื่อง และเราไม่สมควรเรียกร้องมิตรประเทศของเราให้ต้องมีจุดยืน และทัศนะต่างๆทางการเมืองเหมือนกับเราไปเสียทั้งหมด
สังศิต พิริยะรังสรรค์
อดีตสมาชิกวุฒิสภา
