“เต้ มงคลกิตติ์” ร้องสอบทุจริตโครงการ วิทยุุรังค์เรดิโอ‘ วงเงินกว่า 7 พันล้าน เอี่ยวข้าราชการระดับสูง สตช. เอื้อเอกชน ทำรัฐเสียหายหมื่นล้าน – พบเปิด TOR ไม่ผ่านประชาพิจารณ์ มุ๊บมิบของบประมาณเป็น ยุทธภัณฑ์ แต่พอซื้อจ้างลักไก่เป็น ครุภัณฑ์
วันที่ 8 ธันวาคม 2568 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น มอบหมายให้ นางสาวกฤษยากร สรชัย กรรมการมูลนิธิฯ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบการทุจริตจ้างโครงการ ‘วิทยุทรังค์เรดิโอ’ ระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 “ วงเงิน 7,942 ล้านบาท จัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ ลงทุนเกือบหมื่นล้าน เตรียมปล่อยระบบร้างค้างชำระค่า MA กว่า สิบปี พร้อมสอบเอาผิด อดีตข้าราชการ ระดับสูง ของ สตช.และ ผู้บริหาร สตช.ปัจจุบันที่เอื้อบริษัทเอกชน ทำรัฐเสียหาย หมื่นล้าน ”
สืบเนื่องจาก ทางมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ได้รับร้องเรียน พร้อมติดตามตรวจสอบโครงการฯ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการดำเนินงาน ให้มีการจัดซื้อครุภัณฑ์ โดยใช้ชื่อโครงการว่า “โครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัล” หรือ โครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัล(Digital Trunk Radio) ได้แบ่งการดำเนินงาน ออกเป็น ๒ ระยะ โดยในเบื้องต้นได้ทำการแบ่งแยกงบประมาณออกเป็นระยะดังนี้คือ
- โครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัล ระยะที่ 1 งบประมาณ 3,542 ล้านบาท
- โครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัล ระยะที่ 2 งบประมาณ 4,400 ล้านบาท
ซึ่งการดำเนินงานได้มีการทยอยติดตั้งโครงข่ายหรือสถานีฐานพร้อมอุปกรณ์เครื่องลูกข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยต่อมามีความพยายามที่จะของบประมาณ เพื่อที่จะขยายโครงการต่อ ในระยะที่ 3 แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องโรค COVID-19, โครงการในระยะที่ 3 จึงชะลอออกไป การดำเนินงานของโครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัล ได้มีการใช้เงินงบประมาณที่สูงมาก ในขณะที่การกำหนด TOR ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความเห็นของผู้เกี่ยวข้อง แต่กำหนดให้ เป็นโครงการที่จัดซื้อโดยวิธีพิเศษ อีกทั้งขั้นตอนการอนุมัติงบประมาณจาก คณะรัฐมนตรี ก็เป็นวาระพิเศษ และ ลับ จึงเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของสังคมและประชาชนที่ติดตามการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว
พบข้อพิรุธ , ทั้ง 2 โครงการ ไม่ เปิดเผย TOR ให้ มีการประชาพิจารณ์ (มุบมิบ) อ้างความมั่นคง ของบเป็นยุทธภัณฑ์ เพื่อซื้อจ้างด้วยวิธีพิเศษ ตอนของบประมาณ เป็น ยุทธภัณฑ์ แต่ พอซื้อจ้างลักไก่ เป็น ครุภัณฑ์
แอบ ซิกแซก เซ็นสัญญาเป็น ครุภัณฑ์ สำแดงภาษีนำเข้า เป็น ครุภัณฑ์ (ไม่มีใบอนุญาตจากกระทรวงกลาโหม ว่า อุปกรณ์ทั้งหมดว่าเป็นยุทธภัณฑ์ )
ล๊อกสเปก สถานีโครงข่าย (E note B หรือ Base station ) ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โครงข่ายยี่ห้ออื่นได้ ( เพราะ ไม่ได้รับรองมาตรฐานจาก 3GPP) ทำให้ต้องใช้สถานีโครงข่ายยี้ห้อเดี๋ยวทั้งประเทศ ( ผูกขาดยี่ห้อเดี่ยว)
ปัจจุบันไม่มีงบ MA , ค้างจ่ายมาเกือบ 10 ปี , พันกว่าล้าน , NT กำลัง จะฟ้อง สตช. เพื่อให้ศาลบังคับหนี้ ( สตช. ก็ จะใช้ช่องทางนี้ไปของบจากรัฐบาลมาจ่าย )
ต่อมามีผู้พบว่าได้มีการเปิดเผย TOR ที่ไม่ผ่านการประชาพิจารณ์ดังกล่าว โดยมีการเผยแพร่เปิดปมพิรุธของโครงการฯ ลงในสื่อออนไลน์ตามเอกสาร แต่ไม่นานได้ถูกผู้มีอำนาจสั่งให้สื่อออนไลน์ที่ติดตามเรื่องนี้เอาข่าวเปิดปมไม่ปกติมีพิรุธของโครงการฯ ออกจากหน้าเพจมีการร้องเรียนว่ามีการล๊อกสเปก ให้ ใช้ได้แต่อุปกรณ์เพียงยี่ห้อเดี่ยว โดยโครงการฯ ได้แบ่งแยกออกเป็นหลายระยะ หรือ หลายเฟส เพื่อขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศในอนาคต โดย สรุปประเด็นการร้องเรียนดังนี้
1)การส่งมอบงานและอุปกรณ์ไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ใน
TOR (หน้า 3/26) TOR กำหนดให้ เป็นมาตรฐานแบบเปิดหรือ Open Standards ตามมาตรฐานสากล
TOR กำหนดให้ รับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง โดยใช้เทคโนโลยีแบบ Long Term Evolution (LTE) ตามมาตรฐานสากล b.TOR 4.2 ข้อกำหนดความต้องการด้านเทคนิค (หน้า 12/26) TOR กำหนดให้เป็น LTE ตามมาตรฐาน 3GPP Standards ตามมาตรฐานสากล หรือ The 3rd Generation Partnership Project (3GPP Standard)
ผลิตภัณฑ์สามารถเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายอื่นได้ หรือ ใช้งานร่วมกับโครงข่ายอื่นได้
TOR กำหนดมาตรฐานด้านระบบวิทยุสื่อสารดิจิตอลที่เป็นมาตรฐานแบบเปิด(Open Standards) ตามมาตรฐานสากล หรือ The 3rd Generation Partnership Project (3GPP Standard)
ในโครงการดังกล่าว ส่งมอบงานโดย เป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเอง หรือ แบบปิด (Close Standards)
ในโครงการดังกล่าว ส่งมอบงานโดย เป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเอง) eLTE และไม่ได้เป็นมาตรฐานสากล
ไม่สามารถรองรับระบบการทำงานแบบ LTE (MCPTT) ได้ ตาม TOR เนื่องจาก อุปกรณ์และระบบงานที่ส่งมอบเป็นแบบ eLTE “ทำผิดเงื่อนไขใน TOR” ไม่สามารถต่อใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นได้ “ทำผิดเงื่อนไขใน TOR” ไม่ได้เป็นเทคโนโลยี Long Term Evolution(LTE) ที่เป็น มาตรฐานสากล เป็น eLTE เป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเอง และ ไม่ได้เป็นมาตรฐานสากล อุปกรณ์ระบบวิทยุสื่อสารไม่ได้มีหนังสือรับรอง และ ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐาน LTE Release 13
2)ล๊อกสเปกอุปกรณ์ ในการขยายโครงข่าย จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อเดิมตลอดไป ผลิตภัณฑ์โครงข่ายที่ใช้ในโครงการเป็น มาตรฐานที่กำหนดขึ้นเอง หรือ แบบปิด (Close Standards) ใช้เทคโนโลยีแบบ eLTE เป็น มาตรฐานที่กำหนดขึ้นเอง และ ไม่ได้เป็นมาตรฐานสากล ไม่ได้เป็นมาตรฐานสากล หรือ 3GPP Standard LTE Release13 ดังนั้นในการขยายโครงข่ายในอนาคต จึงไม่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับผลิตภัณฑ์โครงข่าย ของยี่ห้ออื่นได้ จะต้องซื้อผลิตภัณฑ์เดิมไปตลอด
3)สัญญาณวิทยุไม่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ และ สัญญาณเสียงและการรับส่งข้อมูลมีคุณภาพต่ำ
ใช้คลื่นสัญญาณซ้ำกับคลื่นสัญญาณของผู้อื่นในย่านความถี่ 800 Mhz สถานีฐานมีกำลังส่งต่ำ และ มีกำลังส่งไม่ได้ตามระยะทางที่กำหนดไว้ การทำงานแบบ Direct Communication และ การสื่อสารระหว่างเครื่องลูกข่าย ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ เช่น กรณีพื้นที่อับในอาคารหรือในห้องใต้ดิน เป็นต้น , TOR ไม่ได้กำหนดคุณภาพเสียง ระยะทางในการรับส่งของสัญญาณเอาไว้ เพื่อเอื้อประโยชน์หรือช่วยให้มีการตรวจรับส่งมอบงานได้ แต่ในการนำไปใช้ในเหตุการณ์จริงกลับใช้งานไม่ได้ และ มีผลกระทบจากการถูกรบกวนจากคลื่นสัญญาณความถี่ในย่านข้างเคียง ซึ่งเป็นผลมา จากการ ออกแบบที่ผิดพลาดของโครงการมาตั้งแต่ต้น
นอกจากข้อเรียนจากสื่อออนไลน์ข้างต้น ผู้ร้องยังตั้งข้อสังเกตุ ในประเด็นการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องลูกข่าย หรือ วิทยุติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีราคาแพง กว่าในท้องตลาด ผู้ร้องยังมีความสงสัยเหตุใดจึงต้องใช้วิธีการจัดซื้อแบบพิเศษ เพื่อให้โครงการที่ใช้งบประมาณแปดพันล้านมีความโปร่งใส่ เกิดความเป็นธรรม เกิดการแข่งขัน ได้ระบบงาน และ ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ตามมาตรฐานสากล คุ้มกับเงินที่รัฐต้องลงทุนไป ปัจจุบันโครงการฯ ได้ค้างค่าบำรุงรักษาระบบงาน จากบริษัท NT เป็นจำนวนเงินพันกว่าล้าน ซึ่งตลอดเวลาที่ ระบบดังกล่าว ได้เปิดใช้งาน ไม่ได้มีงบสำหรับบำรุงรักษาระบบงาน ไม่ได้มีงบซ่อมบำรุง ขณะนี้อยู่ระหว่างบริษัท NT กำลังเตรียมการฟ้องต่อศาล เพื่อบังคับให้ สำนักงานตำรวจ แห่งชาติจ่ายเงินค้างชำรำค่าเช่าโครงข่าย และ ค่าเช่าอื่นๆ ในรัฐบาลที่ไม่สามารถ ทำการตรวจสอบได้ เนื่องจาก ผู้มีอำนาจกีดกันการตรวจสอบ, โครงการดังกล่าว แยกทำโดยแบ่งเป็น เฟสๆ หรือ ระยะ และ ล๊อกสเปกผูกขายแต่เพียงอุปกรณ์ ยี่ห้อเดี่ยว ในการขยายโครงข่ายในอนาคตต้องซื้อแต่ อุปกรณ์ ยี่ห้อที่ระบุไว้ ไม่สามารถ เชื่อมเข้ากับอุปกรณ์โครงข่ายยี่ห้ออื่นได้ เพราะไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐาน 3GPP Standards เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า ซื้อมาทิ้ง ซื้อมาใช้เพียงหน่วยงานเดี่ยว งบประมาณสำหรับค่าเช่าโครงข่าย ค่าเช่าสถานที่ ค่าบำรุงรักษาต่างๆ ไม่มีแผนรองรับ เตรียมปล่อยระบบร้าง เตรียมโอนไปให้บริษัทNT หรือ รอให้แพ้คดีที่ถูกบริษัท NT ฟ้องให้ชำระค่าเช่า จากนั้นจึงใช้ช่องทางดังกล่าว อ้างเหตุผลความจำเป็น เพื่อของบประมาณ มาชำระหนี้ที่ติดค้างไว้
ดังนั้น มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น จึงทำหนังสือถึง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบการทุจริตจ้างโครงการ‘วิทยุทรังค์เรดิโอ’ ระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 “ วงเงิน 7,942 ล้านบาท จัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ ลงทุนเกือบหมื่นล้าน เตรียมปล่อยระบบร้างค้างชำระค่า MA กว่า สิบปี พร้อมสอบเอาผิด อดีตข้าราชการ ระดับสูง ของ สตช.และ ผู้บริหาร สตช.ปัจจุบันที่เอื้อบริษัทเอกชน ทำรัฐเสียหาย หมื่นล้าน ”
