ข่าวประจำวัน » ตำรวจเมากร่าง! ยิงคู่กรณีเจ็บ บุกทำร้ายตำรวจจราจร ถูกสั่งพักราชการทันที

ตำรวจเมากร่าง! ยิงคู่กรณีเจ็บ บุกทำร้ายตำรวจจราจร ถูกสั่งพักราชการทันที

31 May 2025
95   0

นิวส์พีเพิล นิวส์พีเพิล ระบุว่า…

ผู้การสืบภาค 5 สั่งเด็ดขาดให้ ตำรวจเมากร่าง ทำร้ายคู่กรณี ทะเลาะตำรวจจราจรที่มาระงับเหตุ ให้ออกจากราชการ ดำเนินคดีตามกฏหมาย

   จากกรณี ที่  สภ.สันกำแพง มีเหตุการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน

เกิดเหตุ วันที่ 28 มิ.ย.2567 เวลาประมาณ 06.50น.(ได้รับแจ้งเหตุ)
สถาน ที่เกิดเหตุ หน้าร้าน คาเฟ่ ม.5 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ผู้บาดเจ็บ ผู้รับบาดเจ็บนายธณกฤต (ปิดนามสกุล) อายุ 54 ปี ที่อยู่ ม.2 ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง ส่วนผู้ต้องหา คือ ส.ต.อ.ศิริ (ปิดนามสกุล)สัวกัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาค 5

ส่วนพฤติการณ์แห่งคดี ตามวันเวลาเหตุ ทาง ศูนย์วิทยุสภ.สันกำแพงได้รับการประสานจากศูนย์วิทยุเชียงใหม่ ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธ ที่บริเวณร้านลีลา คาเฟ่ พนักงานสอบสวนเวรกับพวก ได้ออกตรวจที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืน มีบาดแผลบริเวณหัวเข่าข้างขวา กู้ภัยนำส่ง รพ.ลานนา จากการสอบถามเบื้องต้นได้การว่าเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น.ของวันเกิดเหตุ มีเหตุการทำร้ายร่างกายกันก่อนผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืน Sig P365 ยิงผู้บาดเจ็บจำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ พบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ปลอก

ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรของ สภ สันกำแพง ไประงับเหตุและตรวจสอบที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า ทาง สตอ ศิริ (นามสมมุติ) ไม่พอใจ ใช้คำพุดต่อว่า ตำรวจจราจรดังกล่าวและยังจะเข้าทำร้ายตำรวจจราจรด้วย ทางตำรวจจราจร สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ตำรวจสืบ ดังกล่าว จากการตรวจสอบ พบมีแอลกอฮอลถึง 200 มิลลิกรัม เกินมาตราฐาน โดยตั้งข้อหาทั้งหมด 4 ข้อหา คือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินผู้เสียหาย, ขับขี่รถในขณะเมาสุรา, ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และทำร้ายร่างกาย
และส่งข้อมูลทั้งหมดไปให้ทางต้นสังกัดของสิบตำรวจเอกรายนี้ได้ดำเนินการทางวินัยและทางอาญาต่อไป

ข่าวคืบหน้าของเรื่องนี้ ทาง พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก สส ภ 5 ได้ลงนามคำสั่่งให้ ส.ต.อ.ศิริ (นามสมมุติ) ตำรวจสังกัดแห่งหนึ่ง ให้ ออกจากราชการไว้ก่อน

โดย คำสั่ง กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค ๕
ที่ ๒๐๔ ๒๕๖๘
เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน

ด้วย สิบตำรวจเอก ศิริ(ปิดนามสกุล) ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่ป้องกันปราบปราม) สังกัดแห่งหนึ่ง มีกรณีถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามคำสั่งกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค ๕ ที่ ๒๐๓/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘ กรณีถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๖๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ นาฬิกา สิบตำรวจเอก ศิริ(นามสมมุติ) ได้ขับขี่รถยนต์ในขณะมึนเมาสุรา เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สถานีตำรวจภูธธรสันกำแพง ได้ไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบสิบตำรวจเอกศืริ (ปิดนามสกุล )อยู่ในอาการมึนเมาสุรา ได้ลงจากรถยนต์ ได้ใช้คำพูดด่าทอ ท้าทายการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนถึงขั้นทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจจจราจรที่กำลังปฏิบัติงานจนได้รับบาดเจ็บ

เหตุเกิดที่แยกต้นเปาพัฒนา ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ พนักงานสอบสวนสถานี ตำรวจภูธรสันกำแพงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย,
ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่” ตามคดีอาญา
ของสถามีตำรวจภูธรสันกำแพง ที่ ๒๗๗:/๒๕๕๕๖๘ ลงวันที่ ๒๙ ๒๗๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕๖๘

กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการประพฤติไม่สมควรอย่างยิ่ง ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของข้าราชการตำรวจ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยส่วนรวม จึงมีเหตุให้พักราชการได้ตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.๒๕๔๗ ข้อ ๓ (๑) คือ ผู้นั้นถูกตั้งกรรมการ สอบสวนหรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาหรือถูกฟ้องคดีอาญา ในเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติหรือ พฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหาย แก่ราชการ

โดยผู้กระทำผิดเป็นข้าราชการตำรวจ มีหน้าที่และอำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชนป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา แต่กลับต้องหาว่ากระทำผิดทางอาญาเสียเองซึ่งมีพฤติการณ์ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนและ ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างร้ายแรง ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหาย
. แก่ราชการได้ ประกอบกับได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนที่เป็นเหตุให้สังพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐๕ มาตรา ๑๓๑ และมาตรา ๑๗๙ แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๕๖๕ ประกอบกับ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.๒๕๔๗ ข้อ ๘ จึงให้ สิบตำรวจเอก ศีรริ(นามสมมุติ)ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

CR.นิวส์พีเพิล นิวส์พีเพิล