ข่าวประจำวัน » อาชญากรรม » #ใครสั่งการระเบิดกรุงเทพฯ

#ใครสั่งการระเบิดกรุงเทพฯ

3 August 2019
2950   0

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนาได้โพสเฟสบุ๊คสังเคราะห์เหตุการณ์ระเบิดไว้อย่างน่าสนใจว่า

กลุ่มเบอซาตู (เอกภาพ) ที่มี มะแซ อุเซ็ง ของมาเลย์ ร่วมกับกลุ่มวาดะห์ (อิสระภาพ) กลุ่มสุลต่านรัฐปัตตานี ของไทย และพรรคการเมืองไทย สั่งการจากดูไบ ร่วมกันก่อเหตุในพระนคร โดยมีเป้าประสงค์ 2 ประการ

1.ยกระดับเหตุการแบ่งแยกดินแดนให้เป็นสากล เพื่อให้ สหประชาชาติ UN เข้ามาแทรกแทรกกิจการภายใน เหมือนในซีเรีย อิสราเอล อิรัก ฯลฯ

2.เพื่อยกระดับการต่อต้านรัฐบาลไทย ขับไล่พลเอกประยุทธ์

ในภาคปฏิบัติการ การก่อเหตุจะสัมพันธ์กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะมุ่งเป้าไปที่ ทหารพราน และ อส. เพราะโครงการพาคนกลับบ้าน ที่มีต้นแบบมาจาก มาตระการ 66/23 ขอพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ทำให้ผู้ก่อการร้ายได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จึงต้องดำเนินการตอบโต้ ตามหลักกองโจรในการทำร้ายผู้สนับสนุนโครงการนี้ ก่อนหน้านี้ได้ลอบสังหารประธานโครงการพาคนกลับบ้านไปแล้ว

การเมืองในไทย รัฐบาลทหารติดกับดักทางการเมือง เข้าสู่หลักการต่อต้านรัฐประหาร โดยมียุทธวิธี ภาคยุทธการคือ ล่อ เร่ง ล้ม ในมาตระการยุทธวิธี ล่อคือล่อเข้าสู่เลือกตั้ง ส่งพลเรือนทหารผู้ใกล้ชิดรัฐบาลทหารยุยงส่งเสริมให้เลือกตั้ง โดยมีหัวหอกคือ อดีตผบ.ทบ.เป็นคนประสาน ผู้ใต้บังคับบัญชา และการเงิน ส่งไส้ศึกไปแทรกแซงและยุยง ให้เลือกตั้ง ในการเร่ง จัดตั้งกลุ่มนิสิต นักศึกษา เอกชน ชุมนุมปราศรัย กดดัน เรียกร้องเลือกตั้ง จึงเป็นที่มาของ “คนอยากเลือกตั้ง”

กระบวนการล้ม เริ่มจากการแถลงนโยบาย ที่จะกลายเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดโปงการทุจริต ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25-27 กรกฎาคม 2562 เมื่อพ้นจากการแถลง จัดแก๊งมอเตอร์ไซค์ออกอาละวาดหน้าพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2562 (ที่ช้ากว่ากำหนด2วันเพราะมีการรู้ตัวทัน ปกติใช้กลุ่มเสธไอซ์ทำงาน) ตรงกับวันพระราชสมภพ

ก่อวินาศกรรมในภาคใต้ เริ่มตั้งแต่ 25 กรกฎาคม -3 สิงหาคม ช่วงการแถลงนโยบายรุกทั้งนอกในสภา เริ่มจากภาคใต้ มุ่งเป้าทหารพรานและอส.เป็นสำคัญ ในกทม.ลงมือวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 2 สิงหาคม 2562 ช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน พร้อมกับการก่อเหตุวางระเบิดทหารพราน ก่อนหน้านี้ในปี 2552 ส่งกลุ่มคนบุกทำลายการประชุมอาเซียนที่ พัทยา

ในภาคปฏิบัติการยังปล่อยให้ มือระเบิดถูกจับ 2 คนจากนราธิวาส จากกลุ่ม BRN อันเป็นเด็กรุ่นใหม่ ก่อเหตุที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อล่อให้รัฐบาลไทยเปิดแถลงการจับกุม เพื่อให้เห็นว่าเป็นปัญหาภาคใต้ ให้สื่อต่างชาติสนใจ เพื่ออ้างเหตุให้สหประชาชาติ UN เข้ามาแทรกแซงได้โดยง่าย

ในภาคปฏิบัติการยังใช้หลักการต่อต้านข่าวกรอง ให้กลุ่มพรรคการเมืองของฝ่ายตนเอง ประณามการกระทำ เพื่อโยนความผิดให้ฝ่ายทหารกระทำเพื่อสร้างสถานการณ์ ใส่ร้ายว่าจะใช้อำนาจพิเศษ หรือเพื่อกลบเกลื่อนการถวายสัตย์ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นต้น

อันเป็นหลักที่เคยใช้มาอย่างน้อย 4 ครั้งคือ วางระเบิดในถังขยะกลางกรุงเทพ ในปี 2549 และปี 2557 ตามหลักการต่อต้านรัฐประหาร และใช้ในการยิง M79 ใส่ผู้ชุมนุมกปปส. วางระเบิดรพ. เป็นต้น

ภาคปฏิบัติการขั้นต่อไปตามหลักการต่อต้านรัฐประหารนั้น มีเป้าหมายคือการล้มการปกครอง มิใช่เพียงล้มหัวหน้าคณะรัฐประหาร จึงมุ้งเป้าโจมตีไปยังองค์กรอิสระ เช่น ศาล คณะกรรมการป้องการการทุจริตแห่งชาติ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง อันเป็นองค์กรอิสระ เพื่อให้ถึงสถาบันชาติ

โดยมีกลุ่มที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ ที่ประกาศตัวตั้งรัฐไทใหม่ ที่หลบหนีการจับกุมของรัฐบาลลาว เวียดนาม เขมร หลังไทยขอความร่วมมือ ที่ไปรวมตัวกันที่ฝรั่งเศส โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ผ่านสื่อออนไลน์ เน้นยูทูปและเฟสบุ๊ค เป็นสำคัญ

ภาคปฏิบัติการต่อไปคือ จัดการปลุกระดม 4 ภาค ปลุกคนรุ่นใหม่ นักศึกษา ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดยอ้างการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 60 ให้นำ ปี 40 มาใช้ ตามหลักเดิมที่ก่อเหตุการเมษาจราจล ในปี 2552 และพฤษภาทะเลเพลิง ปี2553 ประสบความสำเร็จ

โดยเริ่มตั้งแต่ 17 สิงหาคม 2562 จะยื่นฟ้องร้อง เอาผิดกรณีคุณสมบัติ สส.-สว.-ครม. และการถวายสัตย์ ที่ขัดต่อรธน.ปี 60 เตรียมเปิดซักฟอกงบประมาณที่จะชี้เรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบ การบริหารขาดทุน ล้มเหลว เศรษฐกิจตกต่ำ ต้องกู้เงินจากญี่ปุ่น และเตรียมกู้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF

การชุมนุมใหญ่ จะเกิดขึ้นราวเดือนกันยายน – ตุลาคม 2562 พร้อมกับการอภิปรายไม่ไว่วางใจ ในยกที่ 1 และเตรียมแผนสำรองการชุมนุมใหญ่ไว้ เดือน กุมภาพันธ์ แตกหักในเดือนเมษายน 2563 และการขึ้นปีใหม่จะสร้างสถานการณ์กดดันอีกครั้ง

สิ่งเหล่านี้คือยุทธศาสตร์ ยุทธการ และยุทธวิธีของฝ่ายต่อต้าน ที่มีวิธีรับมือ พลิกรับเป็นรุกได้มิยาก ถ้าทำเป็นตามหลักยุทธศาสตร์การเมือง การปกครอง ที่สัมพันธ์กันนั้นเอง

“ การเมืองคือการแสวงหาอำนาจ นักการเมืองคือนักแสวงหาอำนาจ อำนาจที่ยิ่งใหญ่คืออำนาจการปกครองประเทศ ประชาชนจึงต้องรู้จักนักการเมือง และพรรคการเมืองอย่างลึกซึ้งก่อนจะมอบอำนาจให้นักการเมือง “

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
3 สิงหาคม 2562

สำนักข่าววิหคนิวส์