ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #โป๊ะ..หมายจับลุงพล ! ดร.สุกิจ ยัน ส่อมิชอบ ตร.อาจซวย

#โป๊ะ..หมายจับลุงพล ! ดร.สุกิจ ยัน ส่อมิชอบ ตร.อาจซวย

9 June 2021
487   0

ดร.สุกิจ พูลศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ได้โพสข้อความระบุว่า

การจับตามหมายจับโดยไม่ชอบ
________,,__\\\\\\\\________
โดยดร.สุกิจ พูนศรีเกษม นักวิชาการด้านกฏหมาย ศึกษากรณี “มอบตัวตามหมายจับ” และจับตามหมายจับ”มีความแตกต่างกันอย่างไร

ข่าวกรณีลุงพล ได้ถูกศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมาย ในคดีน้องชมพู่ ทนายรูปหล่อท่านหนึ่งแห่งบ้าน”กกกอก”และลุงพลได้เดินทางไปเพื่อขอพบ ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อมอบตัว “ลุงพล”ตามหมายจับ

ตราบใดที่”ลุงพล”ยังไม่มอบตัว ท่านผูบัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่าเจอที่ไหนให้จับนั้น ถูกต้องแล้ว เพราะลุงพลเป็นผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับ

ท่าน ทนายรูปหล่อแห่ง”บ้านกกอก ได้ออกมาให้สัมภาษสังคมกังขาและเข้าใจว่าท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า “ลุงพล”จะไปมอบตัวแล้วถูกปฎิเสธนั้น

อันนี้แหละเป็นสารสำคัญ ทั้งนี้ผู้ต้องหายังไม่ได้ปรากฏต่อหน้าท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แน่นอนหากเจอที่ไหนต้องจับเพราะถ้าหากไม่จับถือว่าละเว้น

แต่ถ้าหาก “ลุงพล”ไปปรากฏต่อหน้าท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วได้บอกกับท่านว่า ท่านครับผมมามอบตัวตามหมายจับครับถ้าท่านไม่รับมอบตัวอันนี้แหละถือว่าละเว้น

กระแสสังคมคิด และ ท่านทนายรูปหล่อ แห่งบ้าน”กกกอก” เข้าใจว่าท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่รับมอบตัวลุงพลตามหมายจับนั่น ท่านทนาย ยังเข้าใจในปัญหาข้อกฏหมายคลาดเคลื่อนที่ท่านให้สัมภาษนั้น ยังไม่ปรากฏว่าท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทำผิดต่อกฏหมาย “ท่านทนายอย่าคิดมากเกินกว่าเหตุ

แต่ถ้าถามว่า นายตำรวจสันติบาลยศ พันตำรวจ หรือนายพลนั่น มองไม่ค่อยถนัด.นายหนึ่งตามข่าวนายนั่น จับและกระชาก”ลุงพล”ในห้องโถงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั้น เป็นการฝ่าฝื่นต่อกฎหมายหรือไม

ตอบได้เลยว่า เจตนาอันแท้จริงของกฏหมายนั้น ไม่เปิดช่อง ให้นายตำรวจสันติบาลทำได้ ทั้งนี้ เจตนาอันของ”ลุงพล”นั้น ได้แจ้งกับนายตำรวจสันติบาลท่านนั้นว่า ผมต้องการมามอบตัวพร้อมด้วยทนายรูปหล่อ ต่อท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามหมายจับ “อย่ากระชากผม ๆไม่ได้หลบหนีไปไหน

ก็เป็นเหตุหนึ่งที่เชื่อได้อย่างสนิทใจว่า “ลุงพล”นั้น ต้องการมอบตัว ไม่ต้องการให้ถูกจับนายตำรวจสันติบาลท่านนั้น มีหน้าที่จะต้องรับมอบตัว”ลุงพล”ตามความประสงค์ “ของผู้ต้องหา

ทั้งนี้ไม่มีผู้ต้องหาคนใด ที่ถูกออกหมายจับแล้วเดินไปให้ตำรวจจับเพื่อให้ได้รับความอับอาย หรือเป็นผู้ต้องหาแล้วมีคนพาหลบหนีไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้”เสืองับ”อย่าง ที่“กิ่งกือ”เข้าใจ

นายตำรวจสันติบาลท่านนั่น จึงมีหน้าที่ต้องทำบันทึก”การแจ้งข้อกล่าวหา”ไปตามความประสงค์ของผู้ต้องหา “ว่าผู้ต้องหา”มอบตัวตามหมายจับ” จึงไม่มีเหตุที่จะจับตามหมายจับหรืออ้างว่าได้จับตามหมายจับได้โดยชอบด้วยกฏหมายอีกต่อไป

การที่นายตำรวจสันติบาลท่านนั้นทำบันทึกการจับกุม “ได้จับกุมตามหมายจับ”และใส่กุญแจมือและสือได้ได้บันทึกภาพไว้ย่อมทำให้ลุงพลได้รับความอับอาย

ทั้งที่ ลุงพล ไม่มีพฤติการณ์ หลบหนี โดยลงชื่อในบันทึกการจับกุมยาวเต็มหน้ากระดาษเอ4 นั้น แต่ตามภาพสื่อมวลชนนำเสนอ มีตำรวจจราจรเพียง 2 นาย กับ นายตำรวจสันติบาลจำนวน1 นาย ผู้ที่ไมไปจับแต่ลงชื่อ นั้น ทั้งที่เป็นการมอบตัว การกระทำนั้น

ย่อมมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 161 รับโทษบทหนัก162 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4532/2548.

ถ้าการกระทำของนายตำรวจสันติบาล นั้นถือได้ว่า มีเจตนาพิเศษโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้”ลุงพล ชื่อเสี่ยงหรือได้รับความอับอาย เป็นเหตุให้สังคมเข้าใจผิด การกระทำนั้นย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157 แม้จะมีหมายจับ”ก็เป็นการจับโดยไม่ชอบ”

จึงเป็นกรณีศึกษา

ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม