ข่าวประจำวัน » #แต่งตัวเสื้อลายแดงไปงานถวายดอกไม้จันทร์ที่วัดไทยแอลเอแล้วให้ผัวฝรั่งเขียนด่าชุมชนไทย

#แต่งตัวเสื้อลายแดงไปงานถวายดอกไม้จันทร์ที่วัดไทยแอลเอแล้วให้ผัวฝรั่งเขียนด่าชุมชนไทย

31 October 2017
2527   0

ปรากฎว่ามีฝรั่งที่ไม่เห็นด้วยได้เขียนโต้ตอบแบบสุภาพชนได้ดีเยี่ยม
ขอบคุณแทนคนไทย

If you travel to Thailand a lot, then you know that Thais are one of the most tolerant and friendliest people on earth. Every place has ” a dress code” even when you want to eat at the restaurant. If you do not follow “the dress code”, you will be asked to leave. It’s simple.
“Your wife is a Thai and she is not a young teenager who knows little about social etiquette. She knows very well what the dress code for the King’s funeral is. Hence, when she turned up dressing like going to a horse racing club, it points out to her only intention – to cause a disruption”. ถ้าคุณเดินทางไปประเทศไทยบ่อยครั้ง คุณย่อมจะรู้ดีว่าคนไทยเป็นที่มีความอดทนอดกลั้นและเป็นมิตรที่สุดท่ามกลางประชาชาติบนโลกนี้ ทุกที่ล้วนมี”วัฒนธรรมการแต่งกาย” แม้ยามที่คุณจะเข้าไปกินอาหารในภัตรคารที่เขาระบุการแต่งกายไว้ หากคุณไม่แต่งกายตามที่เขากำหนดคุณจะโดนเชิญออกจากร้าน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา “ภรรยาของคุณเป็นคนไทยและไม่ได้เป็นเด็กวัยรุ่นซึ่งมีความรู้แค่หางอึ่งเรื่องมารยาทการเข้าสังคม เธอรู้ดีว่าควรจะแต่งกายเช่นไรในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ดังนั้นเมื่อเธอปรากฎกายในชุดที่เหมาะจะไปร่วมสโมสรแข่งม้า มันชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเธอตั้งใจจะก่อความวุ่นวายอย่างเดียว…”

You are a respectable journalist who has a Thai wife and been to Thailand. So, you must have known that during the time of the king’s passing, every Thais -red, yellow, multi colour or neutral “set their differences aside” and mourn their beloved king. Everyone dresses appropriately and respectfully. In the clip, your wife was offered a jacket to cover herself so she can still attend the funeral. She refused. Instead, she kept on arguing with the volunteer. Where’s the manner?
I am disappointed in your wife for making Thais in America society a bad name. “Living in a free country does not mean you can do whatever you like. Freedom comes with duty, responsibility and more importantly respect for others.” Your wife exercised her rights to dress as she pleases. The Thai community also has the rights to ask her to leave when she disrespected them. Nothing to compare to the Nazi here. It is shocking to find the article written by a professional journalist like yourself to be so bias, dramatize and profoundly unethical. Your wife is NOT a victim here. The Thais in America society that you unfairly branded a ‘Nazi’ is. I see no hope in winning a Pulitzer award for you. However, an Oscar for screenwriting is hopeful.

คุณเองเป็นนักข่าวที่มีชื่อเสียงมีภรรยาเป็นคนไทยและไปเมืองไทยบ่อยๆ คุณน่าจะรู้ดีว่าตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต คนไทยไม่ว่าจะเสื้อเหลือง เสื้อแดงหรือเป็นกลางหรือสีอะไร ต่างก็ก้าวข้ามสีต่างๆเหล่านั้นแล้วหันมาร่วมกันไว้ทุกข์ด้วยสำนึกในมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ทุกคนรัก ทุกคนแต่งกายอย่างเหมาะสมกับโอกาสที่จะแสดงความอาลัย ในคลิปมีคนเอาเสื้อแจ็คเก็ตให้ภรรยาคุณใส่เพื่อเธอจะได้อยู่ร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เธอปฏิเสธ ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังโต้เถียงกับจิตอาสา เธอช่างไร้มารยาทเสียจริง ฉันรู้สึกผิดหวังในตัวเธอที่ทำให้ชื่อเสียงของคนไทยในอเมริกามัวหมอง “การอาศัยอยู่ในประเทศที่มีเสรีภาพไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำอะไรก้อได้ตามอำเภอใจ เสรีภาพนั้นมาพร้อมกับหน้าที่ ความรับผิดชอบยิ่งไปกว่านั้นก้อคือการให้เกียรติผู้อื่น “ภรรยาของคุณใช้สิทธิ์แต่งกายตามใจชอบ สังคมไทยก็มีสิทธิ์ที่จะขอให้เธอออกจากบริเวณพระราชพิธีเมื่อเธอไม่ให้เกียรติพวกเขา ไม่สามารถเทียบได้กับเผด็จการนาซี เป็นเรื่องที่ช็อคมากที่ได้อ่านบทความที่เขียนอย่างมีอคติ สร้างภาพอย่างไร้จรรยาบรรณโดยนักข่าวมืออาชีพเช่นคุณ ภรรยาของคุณไม่ใช่เหยื่อในเหตุการณ์นี้ คนไทยในอเมริกาที่คุณกล่าวหาว่าเป็นนาซีต่างหากที่ตกเป็นเหยื่อ ผมมองไม่เห็นเลยว่าคุณจะสามารถคว้ารางวัลพูลลิชเชอร์ อย่างไรก้อดีคุณยังพอมีหวังในรางวัลออสการ์สำหรับการเขียนบทภาพยนตร์อยู่นะ

ดร.บรรจง ชมภูวงศ์
ถอดความเป็นภาษาไทย

#cr.รวมพลคนข่าวพระยาแล
@ นพ

วิฑูรย์ โคตรทุม
สำนักข่าววิหคนิวส์