จากกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุว่า มีผู้เสียหายถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคใหญ่พรรคหนึ่งทำการลวนลามโดยไม่สมยอม โดยหลอกลวงว่าจะพาผู้เสียหายไปพูดคุยเรื่องเศรษฐศาสตร์ แต่กลับพูดคุยเรื่องเพศ เรื่องลามกอนาจาร รวมถึงก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับหญิงไทย อายุ 18 ปี 2 คน ในประเทศอังกฤษ โดยมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.50 น. ที่ สน.ลุมพินี นายษิทรา พา น.ส.จี (นามสมมุติ) อดีตทีมงานหาเสียงพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นเหยื่อที่เคยถูกอดีตรองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวลวนลาม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงศักดิ์ การรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ลุมพินี และ ร.ต.อ.หญิง วิวรรธน์ นาคลดา รอง สว.สส. เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม
นายษิทราเปิดเผยว่า หลังจากวันนี้ได้มาที่ สน.ลุมพินี เมื่อช่วงบ่าย ก็มีเหยื่ออีก 5 คน ติดต่อเข้ามาว่าถูกผู้ก่อเหตุลวนลามข่มขืน ซึ่งกรณีนี้เหตุเกิดที่ จ.เพชรบุรี แต่ตนมาแจ้งความที่นี่เพื่อให้ส่งเรื่องไปยังท้องที่เกิดเหตุใน จ.เพชรบุรี เหยื่อรายนี้ทำงานในพรรคเดียวกับผู้ก่อเหตุ มีหน้าที่ช่วยหาเสียงภายในพรรค ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าว่าขณะเกิดเหตุผู้ก่อเหตุไม่มีอาการเมาแต่อย่างใด
นายษิทรากล่าวว่า วันนี้ได้ประสานให้มาแจ้งความที่ สน.ลุมพินี พร้อมนำหลักฐานเป็นรูปภาพขณะเกิดเหตุ และเพื่อนของเหยื่อมาให้ปากคำ นอกจากนี้ยังมี เหยื่ออีกรายที่เคยเป็นนางแบบ มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จัก เตรียมตัวเข้าแจ้งความเช่นกัน ซึ่งตนมีภาพที่เตรียมจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ เหตุที่เหยื่อไม่กล้าแจ้งความเพราะเหยื่อหลายคนอยู่กับผู้ก่อเหตุในลักษณะสองต่อสอง กลัวว่าจะไม่มีหลักฐาน แต่ตนจะให้รวบรวมสำนวน เพื่อให้เหยื่อเป็นพยานซึ่งกันและกัน อายุความของคดีนี้มีระยะเวลา 15 ปี ทั้งนี้ ตนทราบมาว่าสาเหตุที่ผู้ก่อเหตุนัดพบเหยื่อหลายรายที่ร้านอาหารแห่งนี้ เพราะคอนโดของผู้ก่อเหตุอยู่ใกล้กัน
ด้าน น.ส.จี กล่าวว่า เมื่อปี 2563 ตนเข้าร่วมงานเลี้ยงของทางพรรค มีช่วงหนึ่งที่กำลังจะเลิกงานเลี้ยง ตนนำของไปเก็บท้ายรถ ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาข้างหลัง ทำการบีบหน้าอกของตนอย่างแรง จับก้น และล้วงของสงวน ตนจึงปัดป้องและบอกให้หยุด ผู้ก่อเหตุก็หยุดเพราะมีคนเดินเข้ามา ตนตกใจมากและบอกว่าเจ็บ จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป ยืนยันว่ารู้จักกันในฐานะพี่น้อง เคยคุยกันปกติ ไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว โดยหลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุก็ไลน์มาและโทรศัพท์มาชักชวนตนให้ไปที่คอนโดในกรุงเทพฯ แต่เมื่อตนปฏิเสธไปก็ไม่ได้ชวนอีก
น.ส.จี กล่าวอีกว่า การที่ผู้ก่อเหตุแถลงข่าวในวันนี้ตนมองว่าเป็นการโกหก ตั้งแต่เกิดเหตุตนไม่เคยปรึกษาคนในพรรคการเมืองดังกล่าวเลย ได้แต่เล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เพราะตนเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ อาจทำอะไรไม่ได้ และเมื่อก่อนตนเป็นทีมงานพรรคแต่ได้ลาออกมาแล้ว อยากให้ผู้ใหญ่ของพรรคเชื่อพวกตนบ้าง ต้องคืนความยุติธรรมให้กับเหยื่อด้วย
