เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #แจ้งจับคลิปถ่อย ! ปลัดก้อง จอมแฉ ไม่ทน ประกาศเอาผิด นารา แคปกระเทย

#แจ้งจับคลิปถ่อย ! ปลัดก้อง จอมแฉ ไม่ทน ประกาศเอาผิด นารา แคปกระเทย

7 May 2022
454   0

 

 

   เชียงใหม่ – “ปลัดจอมแฉ” ออกโรงจวก “นารา เครปกะเทย” และ “ลาซาด้า” กรณีทำคอนเทนต์โฆษณาโปรโมตแคมเปญลดราคาสินค้าสุดถ่อยสถุล เนื้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูงและล้อเลียนบุคคลอันเป็นที่เคารพรักของคนไทย ซ้ำยังดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ป่วยหรือผู้พิการ ประกาศเลิกใช้บริการชอปปิ้งออนไลน์ผ่านลาซาด้า พร้อมลบแอปพลิเคชันทิ้งทันที ขณะเดียวกันเล็งรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย


จากกรณีที่เน็ตไอดอลชื่อดัง “นารา เครปกะเทย” หรือ นายอนิวัติ ประทุมถิ่น อายุ 23 ปี และ “หนูรัตน์” หรือนางสาวธิดาพร ชาวคูเวียง ทำการผลิตคอนเทนต์เป็นคลิปวิดีโอและภาพนิ่งเพื่อโฆษณาโปรโมตแคมเปญลดราคาสินค้าพิเศษให้กับ “ลาซาด้า” (LAZADA) แพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง โดยพบว่ามีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูง ล้อเลียนเสียดสีบุคคลอันเป็นที่เคารพสักการะ และดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ป่วยหรือผู้พิการให้กลายเป็นตัวตลก ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิอย่างหนักเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว ทั้งในส่วนของเน็ตไอดอล และ “ลาซาด้า” (LAZADA) พร้อมกับเกิดกระแสแบน “ลาซาด้า” (LAZADA) ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์ ยกเลิกการใช้บริการกับ“ลาซาด้า” (LAZADA) และลบแอปพลิเคชันออกจากโทรศัพท์มือถือ

วันนี้ (6 พ.ค. 65) นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ระบุว่า โดยส่วนตัวและในฐานะเจ้าพนักงานปกครองเห็นว่ากรณีคลิปโฆษณาดังกล่าวถือเป็นพฤติกรรมและการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง อีกทั้งอาจถือได้ว่าไร้จิตสำนึก เนื่องจากโฆษณาโปรโมตดังกล่าวมีเนื้อหาที่พาดพิงสถาบันเบื้องสูงและล้อเลียนบุคคลอันเป็นที่เคารพรักสักการะของคนไทย รวมทั้งยังมีเนื้อหาที่ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ป่วยหรือผู้พิการด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โดยเบื้องต้นในฐานะผู้บริโภครายหนึ่งที่ใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านทาง “ลาซาด้า” (LAZADA) อยู่บ่อยครั้ง ขอประกาศเลิกใช้บริการตั้งแต่นี้เป็นต้นไป และลบแอปพลิเคชันออกจากโทรศัพท์มือถือ จนกว่าจะมีการแสดงความรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมและจริงใจ นอกจากนี้ ตัวเองและสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทยพิจารณาร่วมกันแล้วในการเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ผลิตคอนเทนต์ดังกล่าวและผู้เกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากเบื้องต้นมองเห็นว่าเป็นความผิดฐานก่อให้เกิดผลต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนอย่างรุนแรง รวมทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์