เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #เพื่อไทยโดนแล้ว ! พี่ศรียัน กกต.นัดสอบปากคำ กรณีส่ง สก. เคยต้องคดีปล้นชิงทรัพย์ทหาร-พยายามฆ่า ลงเลือกตั้ง จ่อเจอยุบพรรค

#เพื่อไทยโดนแล้ว ! พี่ศรียัน กกต.นัดสอบปากคำ กรณีส่ง สก. เคยต้องคดีปล้นชิงทรัพย์ทหาร-พยายามฆ่า ลงเลือกตั้ง จ่อเจอยุบพรรค

15 May 2022
401   0

  1.    เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 14.00 น. คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ได้ไลน์แจ้งด่วนมา เพื่อให้ไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการ กรณีร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย เขตตลิ่งชัน หลังตนได้ยื่นร้องเรียนเมื่อ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หลังจากสมาคมฯตรวจพบว่า ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย เขตตลิ่งชัน เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ (ปล้นทรัพย์) ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา และถูกจำคุกจริงตามคำพิพากษาของศาลแล้ว จึงถือได้ว่าอาจเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตาม มาตรา 50 (10) แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562

ซึ่งผู้สมัครฯดังกล่าวถูกพนักงานอัยการเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาล และศาลอาญาธนบุรี ฐานปล้นทรัพย์ (พยายาม) เป็นคดีหมายเลขแดงที่ 2524/2527 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340, 83, 80 และประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พ.ย.2514 ข้อ 14 จำคุกมีกำหนด 10 ปี ของกลางริบ และศาลยังให้นับโทษต่อจากในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 747/2527 อีกด้วย ส่วนศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

อย่างไรก็ตาม แม้บางคนจะอ้างว่าผู้ถูกร้องเคยได้รับการล้างมลทินโทษตามกฎหมายมาก่อน อาจถือได้ว่าผู้ถูกร้องมิได้เคยถูกลงโทษจำคุกฐานปล้นทรัพย์มาก่อนหรือไม่นั้น กรณีดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไว้ก่อนหน้านี้ คือ คำวินิจฉัยที่ 24/2564 ลงวันที่ 22 ธ.ค.2564 แล้วว่า การได้รับประโยชน์จากการล้างมลทิน ไม่มีผลเป็นการลบล้างการกระทำความผิดในคดีอาญาได้ ดังนั้น แม้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ จะได้ประกาศให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ก. และได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว แต่ กกต.ก็มีสิทธิที่จะตรวจสอบและเพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้งออกไปก่อนได้

และที่สำคัญ กกต.กทม.จะต้องดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ถูกร้องต่อไปฐานแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อันเป็นเท็จตาม ป.อ. มาตรา 137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตาม มาตรา 120 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นฯ 2562 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 20 ปีอีกด้วย