14 มี.ค.64-พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.)และโฆษก บช.น. สรุปภาพรวมสถานการณ์กลุ่มเดินทะลุฟ้าv2 จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมาถึงทำเนียบรัฐบาลว่า ภาพรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีเหตุรุนแรง กลุ่มผู้ชุมนุมได้สลายตัวตามเวลาที่ได้มีการพูดคุยกันไว้ อย่างไรก็ดี การมารวมตัวกันในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 5 มี.ค.2564 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ แม้ว่าจะไม่ได้ก่อความวุ่นวายใดๆก็ยังเป็นความผิดใน 2 ข้อหานี้อยู่ดี
“ล่าสุดตำรวจได้ยกตู้คอนเทนเนอร์บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐออกทั้งหมดแล้ว เนื่องจากการข่าวและความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมดูแล้วไม่มีพิษภัย ไม่เสี่ยงต่อการก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ก็ไม่มีความจำเป็นในการตั้งสิ่งกีดขวาง”
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับการปักหลักค้างคืนของผู้ชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อาจอนุโลมให้ค้างคืนได้ แต่ในวันนี้คณะอนุกรรมการประสานงานเร่งรัดติดตามแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งตำรวจได้ทยอยเข้าเจรจากับผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่ม โดยเริ่มจากฝั่งเซฟบางกลอยก่อน ซึ่งเช้าวันจันทร์จะมีการทบทวนข้อตกลงบ้างข้อ และคาดว่าในเช้าวันอังคารทางกลุ่มเซฟบางกลอยจะเคลื่อนตัวกลับ และเจ้าหน้าที่จะพยายามเจรจาอย่างต่อเนื่อง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการใช้มาตรการรุนแรงกับผู้ชุมนุม แต่หากผู้ชุมนุมไม่ยอมออกจากพื้นที่ ก็คงต้องประเมินตามสถานการณ์