ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ “แตงโม นิดา” นักแสดงสาวชื่อดัง ที่พลัดตกเรือจมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ก่อนพบร่างลอยเหนือน้ำในอีก 2 วันถัดมา ซึ่งคดีนี้ยังไม่มีบทสรุปชัดเจน ท่ามกลางข้อสงสัยต่างๆ จากคนในสังคม
แม้ผลชันสูตรศพ “แตงโม” ของนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และการผ่าชันสูตรรอบที่ 2 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อาจจะออกมาในแนวทางเดียวกันว่า ไม่พบร่องรอยบาดแผลแตกที่ศีรษะ และไม่มีฟันหัก
แต่สังคมยังไม่คลายข้อสงสัยกลุ่มเพื่อน 5 คน ที่เป็นพยานบนเรือ โดยเฉพาะ “ปอ” ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือ และ “โรเบิร์ต” ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ คนขับเรือช่วงเกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ กำลังบวชโยคีพราหมณ์ ที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยทางพระญาณวิกรม หรือ “หลวงพี่อุเทน” เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ เชื่อว่า จะสามารถเค้นเอาความจริงจากปากบุคคลทั้งคู่ได้นั้น
ล่าสุดเวลา 10.00 น.วันนี้ (18 มี.ค.) “หลวงพี่อุเทน” โชว์ป้ายข้อความระบุว่า “ขอร้องเรียนไปถึง ผบ.ตร.ท่านสุวัตร แจ้งยอดสุข อาตมาร้องขอความช่วยเหลือ และ พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด.” พร้อมกล่าวว่า วันนี้มีเรื่องที่ต้องคุย โดยขอย้ำว่าอาตมารักประชาชนสวนผึ้งมาก การพูดครั้งนี้ถ้าไปทำให้ อ.สวนผึ้ง เสียหาย ขอยืนยันว่าไม่มีเจตนา
โดยเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น อาตมาถูกตำรวจ ตชด.ล้อมสกัดรถ และสะกดรอยตั้งแต่อยู่บนเขา ตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นตำรวจ ตชด.แต่เห็นมีรถวิ่งสวนขึ้นไป ที่มีการอ้างว่า สถานการณ์ชายแดนอันตราย ให้ลงจากเขามาข้างล่าง อาตมาจึงพยายามอธิบายว่า จะไม่พักบนเขา แต่จะเดินธุดงค์ไปต่อที่กาญจบุรีเลย
“ตำรวจ ตชด.ที่เข้ามาสะกดรอย เขาบอกว่านายเป็นคนสั่งมาให้ดู อาตมาเป็นแค่พระ แล้วมีแม่ชีเต็มรถ เขาจะมากักรถแบบนี้ทำไม จึงอยากร้องเรียนถึง ผบ.ตร.โดยวันนี้จะไปที่กาญจนบุรีตามแผนเดิม”
ขณะที่ “ปอ ตนุภัทร” เปิดเผยว่า เราถูกรถติดตาม คันแรกเป็นรถโตโยต้า แคมรี่ เมื่อไปถึงภูผาผึ้ง รถคันดังกล่าวขับเลยไป แล้วจอดรถริมถนน ก่อนมีคนถือกล้องออกมาจากรถ เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงเลี้ยวขวามุ่งไปทางเมือง จากนั้นมีรถโตโยต้า รีโว่ จอดขวางปิดกลางถนน ด้วยควาตกใจจึงกลับรถ โดยมีรถ จยย.ซ้อนสอง เข้ามาประกบ บอกให้จอด
“เมื่อรถจอดถึงหน้าวัด มีรถเข้ามาปิดล้อมหน้าหลัง เราจึงถามว่าตามมาทำไม เขาบอกว่ารถเราต้องสงสัย เราถามว่าเป็นตำรวจเหรอ เขาบอกเป็นตำรวจ ก่อนวิ่งกลับและออกไปทันที เบื้องต้นแจ้งความตำรวจ 191 และตำรวจท้องที่แล้ว”