ข่าวประจำวัน » #ออสซี่ขอถอนฝูงบินรบ F/A-18F Super Hornets จากภารกิจปราบปรามขบวนการก่อการร้ายไอซิสในอิรัคและซีเรีย

#ออสซี่ขอถอนฝูงบินรบ F/A-18F Super Hornets จากภารกิจปราบปรามขบวนการก่อการร้ายไอซิสในอิรัคและซีเรีย

22 December 2017
810   0

วันที่ 22 ธ.ค. 60 RT พาดหัวข่าวว่า “ออสเตรเลียยุติภารกิจโจมตีต่อต้านไอซิสในอิรัคและซีเรีย ถอนฝูงบินรบกบกลับบ้าน แต่สัญญาว่าจะสนับสนุนต่อไป” (Australia ends anti-ISIS strikes in Iraq & Syria, pulls fighter jets but vows to continue ‘support’)

รายงานข่าวแจ้งว่า กองทัพอากาศออสเตรเลียกำลังถอนเครื่องบินรบของตนเองออกจากภารกิจต่อต้านขบวนการก่อการร้ายในอิรัคและซีเรีย โดยจะเปลี่ยนไปที่การให้ความสนใจต่อ “การสนับสนุน” และ “อำนวยความสะดวกการต่อต้านขบวนการก่อการร้าย” ต่อกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของอิรัคแทน

อิรัคได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายไอซิสโดยกองทัพของตนเองได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม หลังการสู้รบอย่างหนักตลอดระยะเวลา 3 ปี ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้สั่งให้ถอนกองทัพอากาศของรัสเซีย (บางส่วน) ออกจากซีเรียในเวลา 2 วันต่อมา

หลังจากที่ได้เข้าร่วมการสู้รบขบวนการก่อการร้ายไอซิสในอิรัค ตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 เป็นต้นมา ขณะนี้รัฐบาลได้สั่งให้เครื่องบินรบเกือบทั้งหมดของตนเองออกจากภูมิภาคนั้น หลังจากการรับใช้พันธมิตรนำโดยสหรัฐด้วยความจงรักภักดี

“รัฐบาลออสเตรเลียได้กำหนดว่า พวกเราจะต้องนำเครื่องบินรบ [F/A-18] Super Hornet ของพวกเราทั้ง 6 ลำจากตะวันออกกลางกลับบ้านของตนเอง ซึ่งเป็นการสิ้นสุดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของออสเตรเลียในอิรัคและซีเรีย” นาง Marise Payne รมว. กลาโหมของออสเตรเลียประกาศเมื่อวันศุกร์นี้ “เรามีความภาคภูมิใจเป็นล้นพ้น (immensely proud) ในการที่บรรดานักบิน Hornet ของเรามีส่วนร่วมในการต่อสู้พวกดาอิช ไม่มีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของพวกเราซึ่งได้สร้างความแตกต่าง”

ในช่วงที่สูงที่สุดของการประจำการกองทัพของตนเองในการต่อต้านไอซิสนั้น ออสเตรเลียส่งเครื่องบินรบ F/A18 Super Hornet จำนวน 6 ลำ อากาศยานแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าและบัญชาการ E-7A Wedgetail หนึ่งลำ และอากาศยานเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-30A หนึ่งลำ และอากาศยานขนส่งอีกหนึ่งลำไปประจำการที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

กรุงแคนเบอร์รายังได้ส่งบุคคลากรจากกองทัพอากาศของตนเองจำนวนประมาณ 400 นายไปสนับสนุนภารกิจปฏิบัติการทางอากาศ และเจ้าหน้าที่ทหารอีก 200 นาย ซึ่งรวมทั้งหน่วยรบพิเศษ เพื่อปฏิบัติการในฐานะ “ที่ปรึกษาทางทหาร” ให้แก่พวกนักรบกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ด และพวกจีฮาดิสต์อื่นๆ ที่สหรัฐเรียกว่า “กบฏซีเรียสายกลาง”

ที่มา : เพจ ปอกเปลือก ทรราช

สกฤษฏ์ สุวรรณรัตน์

สำนักข่าววิหคนิวส์