สถานีโทรทัศน์ของทางการอียิปต์รายงานว่า อดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ที่ถูกกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2013 เสียชีวิตระหว่างการพิจารณาคดีในศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมอร์ซี วัย 67 ปี ซึ่งกำลังเผชิญข้อหาจารกรรมข้อมูลความมั่นคงของชาติ เป็นลมล้มลงในศาลภายหลังการไต่สวนพิจารณาคดี ก่อนที่จะเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด
นายมอร์ซี จากกลุ่มภราดรภาพมุสลิมของอียิปต์ ถูกกองทัพโค่นอำนาจในเดือน ก.ค. ปี 2013 ภายหลังจากชาวอียิปต์จำนวนมากออกมาประท้วงตามท้องถนนต่อต้านการปกครองของเขา หลังจากขึ้นปกครองประเทศไปได้เพียง 1 ปี ในฐานะประธานาธิบดีคนแรกของประเทศที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
นับตั้งแต่นั้นมา ทางการอียิปต์ได้สั่งห้ามการเคลื่อนไหวของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม และจับกุมกลุ่มผู้สนับสนุน นายมอร์ซี หลายพันคน
โดยนายมอร์ซีร์ ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ คือกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ และกลุ่มเฮซบอลเลาะห์จากเลบานอน เพื่อก่อเหตุแหกคุกครั้งใหญ่ระหว่างการลุกฮือต่อต้านอดีตผู้นำเผด็จการ “ฮอสนี มูบารัก” ในปี 2011 และเมื่อปี 2015 ศาลอียิปต์มีคำพิพากษาประหารชีวิตเขา แต่ได้กลับคำตัดสินในเวลาต่อมา
คำบรรยายภาพเมื่อปี 2015 ศาลอียิปต์มีคำพิพากษาประหารชีวิตนายมอร์ซี แต่ได้กลับคำตัดสินในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านี้ อียิปต์ เคยตกอยู่ใต้การปกครองของอดีตประธานาธิบดีมูบารัค มานาน 30 ปี
แต่เมื่อช่วงปลายปี 2010 ได้เกิดการลุกฮือของประชาชนเพื่อโค่นล้มอำนาจผู้นำในหลายประเทศแถบตะวันออกกลางและตอนเหนือของแอฟริกา หรือที่รู้จักกันในนาม ” อาหรับสปริง” ซึ่งขยายอิทธิพลมาถึงอียิปต์ช่วงปลายเดือน ม.ค. 2011
ตอนนั้น ชาวอียิปต์หลายล้านคนออกไปชุมนุมกันตามเมืองใหญ่ เพื่อขับไล่ประธานาธิบดีมูบารัค การชุมนุมสงบลงเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2011 เมื่อนายมูบารัค ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับตั้งรัฐบาลทหารเพื่อรักษาการ และจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรช่วงปลายปี ตามด้วยการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน มิ.ย. 2011
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปรากฏว่า นายมอร์ซี ซึ่งจบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมศาสตร์จากสหรัฐฯ เป็นผู้คว้าชัยชนะ และเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ปีเดียวกัน สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำอียิปต์คนแรกที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากมีความหวังว่าบ้านเมืองของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังเข้าบริหารประเทศ นายมอร์ซี กลับพยายามใช้การปกครองประเทศแบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ที่ตนเองแต่เพียงผู้เดียว ส่งผลให้ประชาชนที่เทคะแนนเสียงให้เขาผิดหวังและไม่พอใจอย่างรุนแรง เพราะตั้งความหวังว่านายมอร์ซีจะนำพาประเทศไปสู่วิถีทางประชาธิปไตย ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากการปกครองเผด็จการแบบสมัยอดีตประธานาธิบดีมูบารัค
Cr.BBC
สำนักข่าววิหคนิวส์