ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #อดีตผู้พิพากษาสุดทน ! จวก โรม หัดอ่านกม. ก่อนจะเรียก ปธ.ศาลฏีกามาแจงไม่ให้ประกันแกนนำม๊อบ

#อดีตผู้พิพากษาสุดทน ! จวก โรม หัดอ่านกม. ก่อนจะเรียก ปธ.ศาลฏีกามาแจงไม่ให้ประกันแกนนำม๊อบ

1 April 2021
577   0

วันนี้ นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า วันนี้ 31 มีนาคม เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนในฐานะ กมธ. ของสภาผู้แทนราษฎรต้องตรวจสอบทุกดุลอำนาจขององค์กรตามรัฐธรรมนูญว่า ศาลได้ทำหน้าที่อย่างอิสระหรือไม่ ตนจึงได้เสนอเรื่องนี้ต่อ กมธ.กฎหมาย เพื่อให้ กมธ.เชิญ ผู้พิพากษา ประธานศาลฎีกา หรือตัวแทนมาชี้แจงต่อ กมธ.ต่อไป
.
นายชูชาติ กล่าวว่า ใคร่ขอให้นายรังสิมันต์ โรม อ่านบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พรบ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการฯ และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะได้รู้ว่ากรรมาธิการมีอำนาจเรียกผู้พิพากษา หรือประธานศาลฎีกา มาชี้แจงต่อกรรมาธิการหรือไม่ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ควรไปถามท่านประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย ท่านเป็นเนติบัณฑิตไทยสมัยที่ 17 เป็น ส.ส. มาตั้งแต่ปี 2512 จนถึงปัจจุบัน เป็นประธานสภา 2 สมัยแล้ว คงจะบอกได้ว่า ส.ส. มีอำนาจก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของศาล หรือผู้พิพากษาหรือไม่
.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 3 อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
.
มาตรา 188 การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอำนาจของศาล ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไป ตามกฎหมาย และในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ผู้พิพากษา และตุลาการย่อมมีอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ให้เป็นไปโดยรวดเร็ว เป็นธรรม และปราศจากอคติทั้งปวง
.
พระราชบัญญัติ คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พ.ศ.2554 มาตรา 5 คณะกรรมาธิการมีอำนาจออกคำสั่งเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใด มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระทำ หรือในเรื่องที่พิจารณาสอบสวน หรือศึกษาอยู่นั้นได้
.
คำสั่งเรียกตามวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับผู้พิพากษา หรือตุลาการที่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ในกระบวนวิธีพิจารณาพิพากษาอรรถคดี หรือการบริหารงานบุคคลของแต่ละศาล ฯลฯ
.
ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 หมวด 5 กรรมาธิการ ข้อ 97 การเรียกเอกสารจากบุคคลใด ๆ หรือเรียกบุคคลใด ๆ มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความคิดเห็นในกิจการที่กระทำ หรือในเรื่องที่พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาอยู่ ให้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อประธานคณะกรรมาธิการ หรือรองประธานคณะกรรมาธิการผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานคณะกรรมาธิการ
.
การเรียกเอกสารจากบุคคล หรือการเรียกบุคคลมาแถลงข้อเท็จจริงตามวรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับ แก่ผู้พิพากษา หรือตุลาการที่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อานาจในกระบวนวิธีพิจารณาพิพากษาอรรถคดี หรือการบริหารงานบุคคลของแต่ละศาล ฯลฯ