วันที่ 14 ตุลาคม 2564 รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ได้ทำหน้าที่ประสานงานให้ Dr.Sok Sokrethya ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา สมเด็จฮุนเซน ผู้แทนรัฐบาลกัมพูชาและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวได้พบกับ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายยุทธศักดิ์ สุภสร และนายธเนศร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้
ภายหลังจากที่ท่านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้กล่าวต้อนรับแล้ว Dr.Sam ได้กล่าวขอบคุณท่านผู้ว่าและคณะฯ
Dr.Sam ได้กล่าวถึงเรื่องของการร่วมมือการท่องเที่ยวระหว่างกัมพูชากับไทย โดยมีสาระดังต่อไปนี้คือ
1. ก่อนหน้านี้ท่านได้ไปดูสถานที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดยโสธรและศรีสะเกษสิ่งที่ท่านขบคิดก็คือ เราสองประเทศจะร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างไร ภายหลังจากที่มีการเปิดประเทศในเร็วๆ นี้
2. ท่านรัฐมนตรีมีความปรารถนาอย่างจริงจังที่จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของสองประเทศให้ไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งให้มีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศด้วย
ท่านรัฐมนตรีเห็นว่าหลังจากที่มีการเปิดประเทศแล้ว สถานการณ์ของนักท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คำถามก็คือเราจะสื่อสารกับนักท่องเที่ยวอย่างไร ในประเด็นนี้ท่านรัฐมนตรีเห็นว่าประเทศไทยมีประสบการณ์ที่มากกว่ากว่าประเทศกัมพูชา ดังนั้น ท่านจึงใคร่ขอให้ประเทศไทยช่วยแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้แก่ประเทศกัมพูชาด้วย
3. ขอให้ท่านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยช่วยสนับสนุนนโยบาย “1 วีซ่า 2 ประเทศ” ด้วย นโยบายเรื่องนี้จะเป็นการขยายความร่วมมือระหว่างประชาชนสองประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอีสานของไทยที่มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับคนกัมพูชา แม้ว่าจะมีอัตลักษณ์บางประการที่แตกต่างกันอยู่บ้าง ท่านรัฐมนตรียืนยันว่าในขณะนี้ถนนหนทางในประเทศกัมพูชาดีขึ้นมากและสามารถรองรับนักท่องเที่ยวไทยได้เป็นอย่างดี
4. ประเทศกัมพูชามีความปรารถนาที่จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วยระบบ blockchain ท่านรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชาให้การสนับสนุน blockchain อย่างเต็มที่ ท่านมีความมั่นใจว่าการร่วมมือกันในเรื่องนี้จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศร่วมกัน
5. ในอนาคตอันใกล้นี้รัฐบาลกัมพูชาจะมีการออกบัตร “แขกท่องเที่ยวพิเศษ” ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นจำนวนมากจากรัฐบาลกัมพูชา และ
6. ท่านรัฐมนตรีได้ขอให้ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยช่วยดูแลอบรมบุคลากรการท่องเที่ยวของกัมพูชาให้มากขึ้น
ท่านผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เรียนให้ท่านรัฐมนตรีทราบว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยกำลังจะมีการพลิกโฉมเป็น “ ดิจิทัล ทัวริสซึ่ม “ เพราะภายหลังจากวิกฤตโควิด ท่านมองว่าทิศทางการแข่งขันของประเทศต่างๆ จะมุ่งหน้าไปสู่การทำตลาดเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและเน้นความร่วมมือกันเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างสมดุลย์และยั่งยืน
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ททท. เตรียมจัดตั้ง ”บริษัทลูก” แห่งใหม่ เพื่อรองรับกลยุทธ์การเผยโฉมสู่ “ดิจิทัล ทัวริสซึ่ม” กลยุทธ์การทำธุรกิจนี้เพื่อมุ่งสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจและการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้น เป็นการส่งมอบบริการที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และยังถือว่าเป็นการสร้างโอกาสใหม่ในการดึงนักท่องเที่ยวหลังโควิด-19 อีกด้วย
ททท.ยังสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปปรับใช้ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (digital industry) ปรับเปลี่ยนวิธีเรียนรู้ การติดต่อสื่อสารและการทำธุรกรรม โดยคำนึงถึงความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับเรื่องของการนำ Block chain เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยนั้น ท่านมองเรื่องนี้เป็นสองประเด็น กล่าวคือ
ประการแรก ในอนาคต ททท. จะมีการออกเหรียญที่เรียกว่า “ Utility Token “ ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนแปลงคูปองในลักษณะที่เป็นวอยเชอ (voucher) ให้เป็นโทเคนดิจิทัล และเสนอขายในรูปแบบ Utility Token พร้อมใช้ในตลาดแลกเปลี่ยนสำหรับลูกค้า เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถขายสินค้าและบริการล่วงหน้าได้เหมือนเป็นการขาย e-voucher
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือเหมือนเอา e-voucher มาทำเป็น Token Digital และผู้ประกอบการสามารถนำเงินที่รับมาไปหมุนเวียน ซึ่ง ททท. มองว่าแม้ว่าจะไม่สามารถนำ Utility Token ไปแลกเปลี่ยนได้ แต่ก็สามารถนำไปเป็นส่วนลดหรือเป็นสิทธิประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจซื้อ Token Digital ได้
ประการที่สอง ท่านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เรียนให้ท่านรัฐมนตรีทราบว่าขณะนี้ ททท. กำลังที่จะผลักดัน ต่อยอดการใช้ “สกุลเงินดิจิทัล” หรือ “คริปโตเคอร์เรนซี “ เพื่อซื้อสินค้าและบริการท่องเที่ยว นอกจากนี้การออกเหรียญดิจิทัลของ ททท. เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ หลังจากที่ท่านพบว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้
แม้ว่าในขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้นำคริปโตเคอร์เรนซีไปใช้จ่ายสินค้าและบริการ แต่เชื่อว่าในอนาคตจะเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้น ททท. จึงต้องเตรียมความพร้อม เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ถือคริปโตเคอร์เรนซี อยู่ทั่วโลกและเป็นหนึ่งในกลุ่มประชากรที่มีความมั่งคั่งสูงซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงและเต็มใจจ่าย
ท่านผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้สรุปว่าการพบปะหารือในวันนี้ได้ข้อยุติสามประการด้วยกันคือ
ประการแรก ททท. ยินดีที่จะจัดคอร์สการฝึกอบรมเพื่อช่วยพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาให้มากขึ้น
ประการที่สอง สองประเทศจะร่วมมือกันในการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็น Digital Tourism ให้มากขึ้นในอนาคต
ประการที่สาม ทั้งสองประเทศจะมียุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน เพื่อที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นโดยที่จะเน้นคุณภาพของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นด้วย