ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #หลวงปู่พุทธอิสระ ขั้น อ้อ !! ถึงการปลด ผอ.สำนักพุทธ

#หลวงปู่พุทธอิสระ ขั้น อ้อ !! ถึงการปลด ผอ.สำนักพุทธ

11 September 2017
1009   0

          อ้อ… รู้แล้วล่ะ คุณพงศ์พร เจอข้อหาล้ำเส้น ไม่มีสัมมาคารวะนี่เองจึงถูกใบแดง

          11 ก.ย.2560 หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้โพสข้อความผ่าน Facebook ระบุว่า เราลองมาเปิดหู เปิดตา เปิดใจ ท่องไปในโลกแห่งสมมุติกันดูอีกซักที เผื่อจักได้เกิดโลกียปัญญากับเขาบ้าง

          สังคมไทยยังคร่ำครึ จมปลักอยู่กับความเชื่อผิดๆ ว่าที่มีอยู่แต่ละชนชั้นยังมีเส้นแบ่งโดยไม่แยกถูกแยกผิด

          ในครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์ทรงทำลายเส้นแบ่งชนชั้นนี้ด้วยหลักของคุณธรรมทรงชี้ให้เห็นว่าแม้จักบวชมานานเท่าใดก็ตาม หากไม่มีคุณธรรม ไม่บรรลุถึงคุณธรรมใดๆ ก็ยังไม่ชื่อว่าเป็นพระมหาเถระ

           ซึ่งต่างกับผู้ที่บวชเข้ามาแม้เพียงวันเดียว หากเป็นผู้ทรงคุณวิเศษ บรรลุถึงคุณธรรมอันเอกอุ ถึงจะอยู่ในสถานภาพของสามเณร เช่น
สามเณรเรวตตะ ผู้ได้บรรลุพระอรหันต์ ผู้เป็นน้องชายของพระสารีบุตร องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแนะนำให้ภิกษุสงฆ์เรียกสามเณรเรวตะรูปนั้นว่า พระมหาเถระ จึงเป็นที่มาของวลีสุภาษิตไทยที่ว่า คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวานคนจะรวย รวยศีลทาน ใช่บ้านโต แต่ยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในกรรมการมหาเถรสมาคม เห็นตรงกันข้ามกับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เว้นแม้แต่คนในรัฐบาล คสช.ที่ประกาศว่าจะยกย่องข้อกฎหมายและคุณธรรมเป็นเครื่องมือในการบริหารราชการแผ่นดิน ข้อหาล้ำเส้นไม่มีสัมมาคารวะ จึงถูกจับโยนให้คุณพงศ์พร ที่บังอาจไปตรวจสอบการทุจริตในการทำหน้าที่ของกรรมการมหาเถร

          โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ของสมเด็จบางรูปที่แก่แต่ไม่มีความละอาย ไปแต่งตั้งผู้มีมลทินตามพระธรรมวินัยให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด จนนำมาซึ่งคุณพงศ์พรต้องไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสมเด็จพระสังฆราช พวกบรรดากองเลขาหน้าม้าทั้งหลายจึงรวมหัวกันยื่นใบแดงต่อรัฐบาลเพื่อผลักดันให้เปลี่ยนตัว ผอ.สำนักพุทธ แล้วรัฐบาลก็บ้าจี้ กลัวว่าสังคมพุทธ โดยเฉพาะพวกพระมาเฟียจะโทษว่า รัฐบาลกำลังส่งคุณพงศ์พรมากลั่นแกล้งและคอยจับผิดคณะสงฆ์ดังที่พวกนักบวชจีวรแดงพยายามโพนทะนามาตลอด
           รัฐบาลจึงรับลูกด้วยการลงดาบย้ายคุณพงศ์พรออกจากการปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สำนักพุทธเสีย เพื่อตัดปัญหากระทบกระทั่งกับแก๊งค์มาเฟียใหญ่ที่ฝังตัวอยู่ในผ้าเหลือง งานนี้จึงกลายเป็นภาพอุ้มคนชั่ว รังแกคนดีอย่างที่เห็น จะด้วยเจตนาหรือไม่ แต่ผลที่ออกมามันกลายเป็นการแสดงความอ่อนแอของรัฐบาล คสช. ที่ยอมสยบศิโรราบให้แก่อธรรมอย่างยากที่จะแก้ตัว
           พวกเราก็ได้แต่หวังว่าท่านนายกจะรู้สึกตัว หาวิธีแก้ไขตามที่รับปากไว้ว่าจะปฏิรูปวงการคณะสงฆ์และกฎหมายปกครองคณะสงฆ์ให้สำเร็จ นี่คงจะเป็นวิธีแก้ภาพลบให้กลับมาเป็นภาพลักษณ์ที่ทำให้คนทั้งแผ่นดินรักศรัทธาได้

           พวกเรายังมีความหวังว่าท่านนายกจะทำได้อย่างที่พูด และโปรดอย่าไปเกรงกลัวต่ออำนาจของพวกโจรปล้นพระพุทธศาสนาเลย มันจะไม่เป็นผลดีต่อชาติและประชาชนเลย

สำนักข่าววิหคนิวส์