ข่าวประจำวัน » สุดเศร้า!!! 3 พี่น้อง อยู่กันเพียงลำพังมานนาน 2 ปี กินบะหมี่ประทังชีวิต พอถามถึงพอแม่…ทำเอาน้ำตาไหล!!!

สุดเศร้า!!! 3 พี่น้อง อยู่กันเพียงลำพังมานนาน 2 ปี กินบะหมี่ประทังชีวิต พอถามถึงพอแม่…ทำเอาน้ำตาไหล!!!

23 May 2017
619   0

วันนี้ทางทีมงาน Vihoknews ได้รับรายงานจากจากชาวบ้านว่าอยากให้ประสานผู้ใจบุญเพื่อทำการช่วยเหลือ ด.ช.ธนากร โหมดอ่อน หรือน้องเอ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3/9 โรงเรียนสิงห์บุรี ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ด.ญ.ชนนเนตร โหมดอ่อน หรือน้องพี อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1/3 โรงเรียนวัดพรหมสาคร อ.เมือง จ.สิงห์บุรี และ ดช.ปรินทร โหมดอ่อน หรือน้องเก้า อายุ 5 ปี อยู่ชั้นอนุบาล 2/1 โรงเรียนวัดพรหมสาคร อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดย 3 คนพี่น้องต้องอาศัยกันตามลำพังมาเกือบ 2 ปีแล้ว ภายในบ้านเลขที่ 38/1 หมู่ 1 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี

เนื่องจากพ่อและแม่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำ จ.สิงห์บุรี ในข้อหาจี้ชิงทรัพย์ ทำให้ 3 พี่น้องอยู่กันอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะน้องคนเล็กซึ่งมีอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น อาหารหลักของครอบครัวคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่ไก่ และปลากระป๋อง

เมื่อไปสอบถามที่โรงเรียนวัดพรหมสาคร อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนของน้องพี และน้องเก้า ได้พบกับครูอรุณี สำราญจริง และครูนันทกานต์ จันทร์หอม ซึ่งเป็นคุณครูประจำชั้นของน้องพี ได้เล่าว่า ตั้งแต่ที่พ่อและแม่ของน้องเอ น้องพี และน้องเก้า ถูกตัดสินคดีจนต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งตอนนั้นน้องเก้ามีอายุเพียง 3 ขวบกว่าเท่านั้น น้องพี ซึ่งเป็นลูกผู้หญิงเพียงคนเดียวและมีอายุเพียง 10 กว่าขวบ ต้องรับภาระคอยดูแลทั้งพี่ชายและน้องชายคนเล็ก ขาดโรงเรียนบ่อยเพราะเวลาน้องเก้าไม่สบาย น้องพีต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ในเรื่องของค่าใช้จ่ายทางโรงเรียนได้ช่วยดูแลบ้าง ให้อาหารกลางวันกินฟรี แต่มีปัญหาในเรื่องของค่ารถที่เป็นรถประจำเนื่องจากทางบ้านของเด็กๆ ไม่มีรถโดยสารผ่าน ในตอนนี้ได้ติดค่ารถมา 3 เดือนแล้ว ส่วนเด็กๆ เป็นเด็กดี น้องพีจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในครอบครัว

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่บ้านที่เป็นที่พักของเด็กทั้ง 3 คน พบน้องพี ซึ่งกำลังกวาดบ้าน น้องเอ ผู้เป็นพี่ชายคนโตกำลังซักผ้า และน้องเก้า คนเล็ก กำลังทำการบ้าน ทั้ง 3 คนยังโชคดีที่มีนางสมจิตร วัดเมือง อายุ 54 ปี และ นางมณฑิรา มากพงษ์ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นป้าสะใภ้ อยู่บ้านใกล้กันคอยช่วยเหลือบ้าง แต่ด้วยภาระทางบ้านของป้าทั้งสองทั้งยังต้องทำนาเป็นอาชีพหลัก จึงทำให้ไม่สามารถมาคอยดูแลและช่วยเหลืออะไรได้มากนัก

สำนักข่าว vihoknews