ข่าวประจำวัน » เศรษฐกิจ » #สหรัฐตอบโต้ไม่หยุด ! ห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซีย อังกฤษจ่อทะยอยเลิก

#สหรัฐตอบโต้ไม่หยุด ! ห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซีย อังกฤษจ่อทะยอยเลิก

9 March 2022
435   0

: มาเป็นชุด! สหรัฐฯ สั่งแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซีย สหราชอาณาจักรประกาศทยอยเลิกนำเข้าน้ำมันรัสเซียในสิ้นปี ส่วนอียูเสนอเป้าลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียด้วย
.
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศว่าสหรัฐฯ แบนการนำเข้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเหลว และถ่านหินจากรัสเซีย ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ ‘มีผลกระทบอย่างมากที่สุด’ ในเวลานี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการลงโทษรัฐบาลรัสเซียฐานบุกยูเครน
.
“เรากำลังห้ามการนำเข้าน้ำมัน ก๊าซและพลังงานของรัสเซียทั้งหมด นั่นหมายความว่าน้ำมันของรัสเซียจะไม่เป็นที่ยอมรับที่ท่าเรือของสหรัฐฯ อีกต่อไป และคนอเมริกันจะสร้างผลกระทบอันทรงพลังอีกครั้งต่อปูติน” ไบเดนระบุในถ้อยแถลงจากทำเนียบขาว พร้อมระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวผ่านการปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรแล้ว
.
BBC รายงานว่า แม้จะมีความกลัวว่าราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้น แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการสนับสนุนทางการเมืองจากทั้งสองฝ่ายอย่างกว้างขวางในสหรัฐฯ
.
ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นจากการคาดการณ์ว่าจะมีการประกาศของไบเดนดังกล่าว โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ไปสู่ระดับ 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
.
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลสหราชอาณาจักรก็ประกาศเช่นกันว่าจะทยอยยุตินำเข้าน้ำมันของรัสเซียภายในสิ้นปี 2022 ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ดังกล่าวด้วย
.
“การเปลี่ยนผ่านนี้จะทำให้ตลาด ธุรกิจ และห่วงโซ่อุปทานมีเวลามากเกินพอที่จะทดแทนการนำเข้าของรัสเซีย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 8.0 ของอุปสงค์ของสหราชอาณาจักร” ควาซี ควาร์เตง รมว.กระทรวงธุรกิจ พลังงานและยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักรทวีตข้อความ
.
อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันนี้จะไม่มีผลกับก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 4 ของอุปทานในสหราชอาณาจักร แต่ควาร์เตงกล่าวว่าเขากำลังสำรวจทางเลือกต่างๆ เพื่อยุติการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียโดยสิ้นเชิง
.
AFP ระบุว่าสถานการณ์นี้เสี่ยงที่จะทำให้วิกฤตค่าครองชีพในสหราชอาณาจักรทวีความรุนแรงขึ้น โดยราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลได้พุ่งสูงขึ้นแล้วท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาด ภายหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยพลังงาน
.
แต่ควาร์เตงกล่าวว่าการนำเข้าน้ำมันดิบส่วนใหญ่ของสหราชอาณาจักรมาจาก “คู่ค้าที่ไว้ใจได้” เช่น สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และรัฐผู้ผลิตน้ำมันรอบอ่าวเปอร์เซีย
.
“เราจะทำงานร่วมกับพวกเขาในปีนี้เพื่อประกันการจัดหาเพิ่มเติม” เขากล่าว

“ตลาดได้เริ่มกีดกันน้ำมันของรัสเซียแล้ว โดยเกือบ 70% ของน้ำมันรัสเซียไม่สามารถหาผู้ซื้อได้ในขณะนี้” ควาร์เตงกล่าวเสริม เขายังประกาศจัดตั้งคณะทำงานด้านน้ำมันของรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ เปลี่ยนผ่านจากการใช้น้ำมันของรัสเซีย
.
ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรปเสนอเป้าหมายว่าอียูต้องการลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียอย่างมหาศาลในปีนี้ โดย AFP ระบุไว้ก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียว่า การแบนของสหรัฐฯ ถือเป็นขั้นตอนที่ ‘ไกลเกินไป’ สำหรับชาวยุโรปซึ่งกลัวว่าผลทางเศรษฐกิจจะรุนแรงเกินไป
.
โดยในทางกลับกัน คณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า พวกเขาสามารถขจัดส่วนแบ่งมหาศาลในการพึ่งพารัสเซีย โดยการใช้จัดหาก๊าซจากแหล่งใหม่ เพิ่มปริมาณสำรองสำหรับฤดูหนาวหน้า และเร่งความพยายามในการประหยัดพลังงานมากขึ้น
.
“ภายในสิ้นปีนี้ เราสามารถแทนที่การนำเข้าก๊าซจากรัสเซียได้ 1 แสนล้านลูกบาศก์เมตร นั่นคือสองในสามของสิ่งที่เรานำเข้ามาจากพวกเขา” ฟรานส์ ทิมเมอร์แมนส์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส
.
“สิ่งนี้จะยุติการพึ่งพาที่มากเกินไปของเรา และทำให้เรามีที่ว่างที่จำเป็นมากในการเปลี่ยนทิศทางใหม่” ทิมเมอร์แมนส์ซึ่งเป็นผู้นำในการกำหนดนโยบายของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกล่าวเสริม
.
ในแผนดังกล่าวอียูระบุว่า ทางอียูอาจเป็นอิสระจากก๊าซ น้ำมัน และถ่านหินของรัสเซียโดยสมบูรณ์ภายในปี 2030
.
ทิมเมอร์แมนส์ยังมีคำเตือนด้วย โดยรัสเซียนั้นจัดหาก๊าซถึงร้อยละ 40 ของความต้องการใช้ก๊าซของสหภาพยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิตาลี เยอรมนี และหลายประเทศในยุโรปกลางที่ต้องพึ่งพาก๊าซดังกล่าว ในขณะที่หนึ่งในสี่ของอุปทานน้ำมันก็มาจากรัสเซียเช่นกัน
.
AFP รายงานไว้ก่อนมีคำสั่งแบนของสหรัฐฯ ว่า การพึ่งพาดังกล่าวนี้ทำให้ชาติต่างๆ ในสหภาพยุโรปต้องต่อต้านการเรียกร้องของยูเครนและสหรัฐฯ ให้คว่ำบาตรภาคพลังงานของรัสเซียอย่างรุนแรง เนื่องจากพันธมิตรชาติตะวันตกพยายามหาทางเพิ่มเพื่อโจมตีรัสเซียให้หนักขึ้นสำหรับการกระทำของรัสเซียในยูเครน
.
“ความจริงก็คือมีประเทศสมาชิกของเราจำนวนค่อนข้างมากที่จะประสบปัญหา หากพลังงานทั้งหมดจะไม่ถูกจัดหาจากรัสเซียอีกต่อไปในทันที” ทิมเมอร์แมนส์บอกกับสมาชิกรัฐสภายุโรป ก่อนหน้านี้
.
“ดังนั้นเราจึงต้องทำให้แน่ใจว่า … เราจะไม่ทำร้ายตัวเองมากกว่าที่ทำกับปูติน” เขากล่าวเสริม
.
ข้อเสนอดังกล่าว ยังเรียกร้องให้มีการเพิ่มเพดานสำรองก๊าซเป็นร้อยละ 90 ภายในวันที่ 30 กันยายน เพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 ด้วย
.
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นก่อนการประชุมผู้นำสหภาพยุโรปที่จะหารือถึงแนวทางในการตัดสัมพันธ์ด้านพลังงานของยุโรปกับรัสเซียในระยะยาว
.
และก่อนหน้านี้ไม่ถึงหนึ่งวัน เพิ่งมีรายงานว่า อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ออกมาเตือนว่าการแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียจะส่งผลกระทบ “อย่างเป็นหายนะ”
.
“การแบนน้ำมันรัสเซียจะนำไปสู่ผลอันหายนะต่อตลาดโลก ราคาที่พุ่งสูงขึ้นจะคาดเดาไม่ได้ – มากกว่า 300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากไม่มากกว่านั้น” โนวัคกล่าวในข้อคิดเห็นที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวของรัสเซีย เขายังเสริมว่า “เป็นไปไม่ได้” ที่จะแทนที่น้ำมันรัสเซียอย่างรวดเร็วในตลาดยุโรป
.
“จะใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี และจะมีราคาแพงกว่ามากสำหรับผู้บริโภคชาวยุโรป” เขากล่าว และบอกว่าการพูดถึงการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียทำให้เกิด “ความไม่มั่นคงและนำไปสู่อันตรายร้ายแรงต่อผู้บริโภค”
.
เขายังเสริมว่าในการตอบโต้สำหรับการหยุดโครงการท่อก๊าซธรรมชาติใต้ทะเลบอลติก Nord Stream 2 นั้น รัสเซียอาจจะหยุดการจัดส่งก๊าซผ่านท่อส่ง Nord Stream 1 ได้
.
“จนถึงตอนนี้ เรายังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ จะไม่มีใครได้ประโยชน์จากสิ่งนี้” โนวัคกล่าว
.
“แม้ว่านักการเมืองยุโรปจะผลักดันให้เราทำเช่นนี้ด้วยแถลงการณ์และข้อกล่าวหาต่อรัสเซีย” เขากล่าวเสริม
.