วันนี้ เวลา 10.00 น.ที่อาคารเอนกประสงค์ อบต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและชาวจังหวัดระยอง ได้เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมหนองละลอก ที่มาเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนตามขั้นตอน วิธีการ ตามที่กฎหมายสิ่งแวดล้อม 2535 แก้ไขเพิ่มเติม 2561 กำหนด
ทั้งนี้โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฯดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (บอร์ด กนอ.) อนุมัติในหลักการให้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมใหม่ 1 แห่งในพื้นที่ EEC คือ นิคมอุตสาหกรรมหนองละลอก พื้นที่ราว 1,546 ไร่ ใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับการลงทุนใน EEC การขยายตัวของอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve รวมถึงตอบสนองนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่มีศักยภาพตามยุทธศาสตร์ของประเทศเชิงพื้นที่ (Area-based) ในรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน โดยบริษัทเอกชนเจ้าของโครงการฯ จะเป็นผู้ลงทุนพัฒนาและให้บริการระบบสาธารณูปโภคภายใต้การกำกับของ กนอ.
แต่จากการลงตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่จริงปรากฏว่า พื้นที่ดังกล่าวเริ่มมี การก่อสร้างถนน รางระบายน้ำ และการถมปรับพื้นที่แล้ว ทั้งๆที่การจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ขำนาญการฯ(คชก.) ของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามกฎหมาย แต่ทว่าในพื้นที่กลับมีการปล่อยปละละเลยให้มีการปรับพื้นที่ก่อสร้างไปก่อนแล้ว อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจึงได้ร่วมกับตัวแทนชาวระยองลงเก็บพยานหลักฐานในพื้นที่เดื้อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และนายก อบต.หนองละลอก ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.มาตรา 157 ที่ปล่อยให้เจ้าของโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมหนองละลอกได้ดำเนินการปรับพื้นที่และก่อสร้างถนน รำราง ฯลฯไปก่อนที่จะได้รับความเห็นชอบรายงาน EIA จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
นอกจากนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ยังได้ทำหนังสือร้องเรียนให้สมาคมฯเป็นตัวแทนชาวบ้านในการนำความขึ้นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อระงับโครงการจัดตั้งนิคมฯดังกล่าวในอนาคตต่อไป เนื่องจากขณะนี้จังหวัดระยองมีนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม หรือสวนอุตสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่กระจายเต็มพื้นที่จังหวัดไปหมดแล้ว ซึ่งก่อมลพิษต่างๆมากมาย และเกิดปัญหาแย่งชิงน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคกับประชาชนมาโดยตลอด จึงไม่ควรที่จะเพิ่มอุตสาหกรรมเข้ามาในพื้นที่จังหวัดระยองอีกต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด