ไลฟ์สไตล์ » สุขภาพ » #ระวังตัวไว้เลย !! โรคตับแข็ง..ไม่ดื่มเหล้าก็เป็นได้

#ระวังตัวไว้เลย !! โรคตับแข็ง..ไม่ดื่มเหล้าก็เป็นได้

5 May 2017
821   0

#ระวังตัวไว้เลย !! โรคตับแข็ง..ไม่ดื่มเหล้าก็เป็นได้

แม้ว่าปัญหาโรคตับไม่ได้ติดอยู่ในอันดับต้นๆ โรคร้ายของคนไทย แต่กลับเป็นอันดับ 1 ที่มีผู้ป่วยเป็นโรคไขมันพอกตับมากที่สุด พญ.อรพิน ธนพันธุ์พาณิชย์ แพทย์อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารและโรคตับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า สาเหตุของการเป็น “ไขมันพอกตับ” เกิดจากปริมาณไขมันในตับเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วร่างกายของคนเราควรจะมีไขมันในตับเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเกณฑ์ปกติ แต่การเป็นโรคไขมันพอกตับจะมีไขมันในตับของร่างกายสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ความน่ากลัวของโรคนี้คือลักษณะอาการที่ไม่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนในทุกคน หรือค่อนข้างที่จะสังเกตได้ยาก คือ จะรู้สึกเพลียบ้างเล็กน้อย หรือง่วงนอน บางรายอาจมีปัสสาวะสีเข้ม จนไปสู่ถึงอาการที่แสดงออกเมื่อถึงระยะสุดท้ายจนเป็นท้องมาน

สิ่งที่สำคัญ คือ โรคไขมันพอกตับสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทั้งคนที่มีรูปร่างอ้วน หรือกับคนที่มีรูปร่างผอมหรือหุ่นดี ซึ่งมี 3 ปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องต่อโรค ทั้งพฤติกรรม พันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม
การตรวจหาโรคนี้เพื่อเตรียมรับมือทำได้ด้วยการวินิจฉัยการตรวจจากผลเลือด ที่ให้คำตอบชัดเจนมากที่สุดและสามารถตรวจระดับความแข็งของตับและวัดปริมาณไขมันในตับเพื่อทราบคร่าวๆ ว่าตนเองอยู่ในระยะห่างจากโรคไขมันพอกตับมากเท่าไหร่ กี่เปอร์เซ็นต์ ด้วยเครื่อง Fibroscan ในการยิงคลื่นเสียงออกไปและสะท้อนกลับเร็วหากพบว่าตับแข็ง โรคนี้ไม่สามารถใช้การอัลตราซาวด์หาไขมันพอกตับได้

วิธีการป้องกัน แพทย์ได้กล่าวว่า ไม่มียาวิเศษใดๆ ที่จะช่วยทำให้หายได้เป็นปกติ จึงต้องป้องกันจากตัวเราเอง Lifestyle modification สามารถช่วยโรคตับได้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่สามารถแก้ไขได้ คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คำนวณแคลลอรี่ที่เหมาะสมต่อวัน จะสามารถป้องกันการเกิดโรคไขมันพอกตับได้มากที่สุด รวมไปถึงเครื่องดื่มโดยเฉพาะแอลกอฮอล์ที่ไม่ควรดื่มเกิน 20 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนการออกกำลังกายไม่สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้ ควรเน้นไปที่เรื่องอาหารมากที่สุด ซึ่งคุณหมอแนะว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทานคลีนฟู้ด เพราะนั้นเหมาะกับปัญหาในหลายๆ จุด จึงต้องทานเพื่อเป็นการควบคุมมากกว่า
หากพบว่าเป็นโรคไขมันพอกตับจะใช้วิธีรักษาอาการด้วยวิตามินซีและยาอักเสบที่ช่วยขับน้ำดี ช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ช่วยในเรื่องการนำเอาอินนูลินไปใช้พลังงาน ในส่วนของกล้ามเนื้อเยอะขึ้นเนื่องจากว่าตับสามารถทิ้งส่วนเสียออกไปได้และงอกขึ้นมาใหม่ แต่ทุกครั้งการทิ้งส่วนเสียของตัวเองจะคงเหลือผังผืดอยู่เสมอ หากเรายังชะล่าใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเรา การผลิตเซลล์ของตับจะวนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่แบบเดิม และวันหนึ่งตับก็จะไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้อีก
ทั้งนี้ผู้ป่วยจากพันธุกรรมควรตระหนักและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และคนทั่วไปควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะรับทราบถึงสุขภาพในปัจจุบัน และทันต่อการรักษาหากพบว่ามีการผิดปกติภายในร่างกาย
ขอบคุณเนื้อหาจาก:พญ.อรพิน ธนพันธ์ุพาณิชย์ แพทย์อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารและโรคตับ รพ.บำรุงราษฎร์,[Online]www.komchadluek.net