เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #ยืนประหารชีวิต ! ศาลอุธรณ์ ยืนสั่งคดีบรรยิน อดีตรมช.เสื้อแดง ฆ่าเสี่ยชูวงค์

#ยืนประหารชีวิต ! ศาลอุธรณ์ ยืนสั่งคดีบรรยิน อดีตรมช.เสื้อแดง ฆ่าเสี่ยชูวงค์

25 August 2022
237   0

 

   ที่ศาลอาญาพระโขนง วันนี้ (25 ส.ค.)ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊งหรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ หมายเลขดำ อ.4915/2559 ที่นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง และพนักงานอัยการร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-5 ยื่นฟ้อง พ ต.ท.บรรยิน หรือ นายบรรยิน อดีตตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และ ส.ส.นครสวรรค์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7)

กรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 นายชูวงษ์ อายุ 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม. ชนต้นไม้ มี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้างๆ โดยชนต้นไม้ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ทำให้นายชูวงษ์ ถึงแก่ความตาย ซึ่งโจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆาตกรรมอำพรางว่าเป็นอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ เหตุเกิดที่ ต.บางโฉลง กับ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการและแขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร คดีนี้ศาลอาญาพระโขนงพิพากษาประหารชีวิตพ.ต.ท.บรรยินสถานเดียว

โดยวันนี้ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปยังเรือนจำกลางบางขวาง สถานที่คุมขังพ.ต.ท.บรรยิน โดยมีญาติผู้ตายกับทนายความรวม 7คน มาฟังคำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์พยานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่าวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยินจำเลยออกสนามกอล์ฟเลควู้ดและอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายเมื่อเวลา 20.11 น. โดยนั่งรถยนต์ไปถึงกม.ที่ 48 ถึง 50 ในเวลา 22.21 น. ทั้งที่อยู่ห่างกันเพียง 37กม. ใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง จึงนานเกินไปที่จำเลยให้การว่าขับเร็ว 80 กม.ต่อชั่วโมง หักหลบรถที่แซงล้ำมาในเลน พยานดูแล้วไม่มีรถขับสวนมาจริง และพบว่าจำเลยขับรถมาเร็วไม่เกิน 30 กม.ต่อชั่วโทง

ขณะที่พบว่าศพผู้ตาย ไม่ได้เกิดจากรถขับไปชนต้นไม้ แต่เกิดจาการถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ เมื่อพิจารณาจากรอยช้ำที่ใบหน้า เปลือกตา ม่านตา อาหารในกระเพาะเชื่อว่านายชูวงศ์ตายก่อนเวลา 22.00 น.

นอกจากนี้โจทกร่วมและญาติ ได้พบหลักฐานการโอนหุ้นปลอม สองครั้งให้กลุ่มจำเลยคือ 30 ล้านบาทกับ 228 ล้านบาทให้ นส.อุรชา กับพวกทั้งที่ไม่ใช่ญาติ เชื่อว่ามีการโอนหุ้นโดยจำเลยมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งศาลอาญาใต้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 8 ปี จำเลยอื่นคนละ 4 ปี

ฟังว่าการโอนหุ้นโดยทุจริตมีจำเลยเกี่ยวข้อง และผู้รับโอนเช่นน.ส.อุรชาก็มีความสัมพันธ์กับจำเลย ดังนั้นเชื่อว่าจำเลยต้องการปกปิดการโอนหุ้นไม่ให้ผู้ตายรู้

ดังนั้นจำเลยอาศัยความเป็นเพื่อนสนิทและผุ้ตายเกรงใจ ชักชวนมาตีกอล์ฟกับผู้ใหญ่แล้วจำเลยทำทีขับรถยนต์อาสาไปส่งผู้ตายโดยขับออกนอกเส้นทางไปประมาณ 37 นาที แล้วร่วมกับพวกที่ยังได้ถูกดำเนินคดีใช้ของแข็งประทุษร้ายจนตายจากนั้นจำเลยขับรถและใช้มือซ้ายประคองร่างมาจุดเกิดเหตุ

พิพากษาว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อปกปิดการกระทำผิดของตน พิพากษายืนประหารชีวิต นอกจากนั้นเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

     นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของนายชูวงษ์
นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของนายชูวงษ์


ด้าน นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ กล่าวว่า อาญาพระโขนงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคดีฆาตกรรมน้องชาย ตนเองก็รู้สึกพอใจในคำพิพากษา ขณะนี้ถือว่าพ.ต.ท.บรรยินถูกศาลอุทธรณ์สั่งประหารชีวิตแล้ว 2 คดีคือคดีนี้รวมทั้งคดีฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา นางวันเพ็ญกล่าวต่อว่า เราต่อสู้กันยาวนานมาก วันนี้ครบ 7 ปีที่เกิดเหตุการณ์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2558 การสืบพยานยากลำบาก จำเลยเป็นตำรวจและรู้กฎหมาย แต่เราสามารถสืบพยานจนศาลลงโทษประหารชีวิตได้ ก็ต้องขอบคุณศาลและกองพิสูจน์หลักฐาน โดยเฉพาะการพิสูจน์เรื่องความเร็วรถ และมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่มาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตและบาดแผลที่ศพผู้ตาย ทำให้เป็นพยานที่ศาลรับฟังเมื่อถามว่าถ้าหากจำเลยยื่นฎีกาจะทำให้คดีการฟ้องร้องในทางแพ่งล่าช้าไปอีกหรือไม่น.ส.วันเพ็ญ กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ล่าช้า เพราะตอนนี้เหลือเพียงกระบวนการในชั้นศาลฎีกาซึ่งคดีจะถึงที่สุด ส่วนคดีแพ่งในส่วนของหุ้น ตอนนี้ก็รอคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์อยู่

     นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ มาฟังคำพิพากษา