ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ม.เกษตร ออกแถลงการณ์ !! จี้ปล่อยตัวเครือข่ายต้านโรงไฟฟ้าเทพา

#ม.เกษตร ออกแถลงการณ์ !! จี้ปล่อยตัวเครือข่ายต้านโรงไฟฟ้าเทพา

29 November 2017
534   0

          เครือข่ายนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกแถลงการณ์ว่า “แค่ไปยื่นจดหมายให้กับรัฐบาลถึงกับถูกจับขังคุก” คงเป็นอะไรที่แปลกประหลาดสำหรับประเทศที่เรียกตัวเองว่าปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และแปลกประหลาดต่อเนื่องเมื่อรัฐบาลประกาศว่าประเทศไทยของเรานั้นจะเป็นปีแห่งสิทธิมนุษยชน แต่ภาพจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นกับชาวบ้านอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา

           เมื่อตำรวจใช้กำลังเข้าสลายกิจกรรมเดินเท้าของเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินในการไปยื่นหนังสือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่นำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อการประชุม ครม. สัญจร ต่อประเด็นความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านได้รับจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐสกัดการเดินทำกิจกรรมและจับกุมชาวบ้านไปอย่างน้อย 16 คน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 หลังเดินขบวนจาก อ.เทพาตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เพื่อเตรียมเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี
           ตรงประเด็น – หากรัฐบาลมีหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับพลเมืองของรัฐนั้นๆแล้ว การรักษาทรัพยากรของชาติก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ที่รัฐบาลทุกรัฐบาลควรกระทำ และการฟังเสียงของประชาชนก็เป็นหนึ่งในวิถีที่จะทำให้รัฐบาลนั้นๆได้มองเห็นปัญหาอย่างรอบด้าน เพื่อที่จะได้ประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน
           และเสียงสะท้อนจากประชาชนต่อสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในการจัดให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ อ.เทพา จ.สงขลา นั้น ก็เป็นเสียงสะท้อนให้หยุดก่อสร้าง เพราะมีปัญหาทั้งในแง่เป้าหมายและกระบวนการ และผลกระทบต่อคนในพื้นที่
                          ในแง่เป้าหมายนั้น เป็นที่แน่ชัดของสังคมโลกแล้วว่า พลังงานถ่านหินนั้น ได้สร้างผลกระทบทั้งกับโลกและกับมนุษย์ เป็นพลังงานไม่สะอาดมีผลกระทบในแง่ลบมากกว่า ทั้งจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีผลกระทบด้านสุขภาพและอนามัย ดังนั้นเราจะเห็นประเทศต่างๆในโลกที่ศิวิไลซ์นั้นพยายามลดหรือเลิกใช้ในที่สุด โดยแก้ไขโดยการหาพลังงานสะอาดมาทดแทน เช่น พลังงานน้ำ ลม แสงอาทิตย์
          ในแง่กระบวนการนั้น ตลอด 4 ปีของ การดำเนินการจัดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.เทพา นั้นมีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไม่มีส่วนร่วมของประชาชนในการรับฟังความคิดเห็นทั้ง 3 ครั้ง,กระบวนการศึกษา EHIA มีความบกพร่อง ไม่ครอบคลุม เพราะชาวบ้านไม่เห็นมีการเก็บข้อมูลเลยแต่กลับมีข้อมูลรายงานต่อภาครัฐ และการศึกษามีข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งกระบวนการอนุมัติโครงการมีการแยกส่วนการศึกษา EHIA เช่น มีการชงให้ ครม.อนุมัติสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไปก่อน โดยไม่รอ EHIA ท่าเรือขนถ่านหินซึ่งไม่ผ่านและยังต้องปรับแก้อีกมาก
          ในแง่ผลกระทบต่อคนในพื้นที่นั้น ในแง่พื้นที่ทำโครงการเกือบ 3,000 ไร่ หากมีการสร้างจริง ต้องมีการบังคับโยกย้ายคนกว่า 180 หลังคาเรือน ร่วม 1,000 คน นับเป็นการบังคับโยกย้ายครั้งใหญ่ และคนที่จำเป็นต้องอยู่อาศัยรอบโรงไฟฟ้าถ่านหินในรัศมี 1 กิโลเมตร มีมากถึง 4,000 คน และรัศมี 5 กิโลเมตรมีร่วม 20,000 คน นั้นแสดงถึงการเลือกที่ตั้งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
           จากปัญหาทั้ง 3 ทาง ทั้งในแง่เป้าหมาย กระบวนการ และผลกระทบนั้น สรุปได้แน่ชัดว่า “โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไม่มีความชอบธรรมใดๆที่จะสร้าง” และหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อรัฐเลือกที่จะใช้ความรุนแรงทั้งในแง่กำลังและกฎหมายเข้าจัดการกับประชาชนที่ออกมาคัดค้าน ดังนั้น ทางเครือข่ายนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขอประณามการกระทำของรัฐว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงและรับไม่ได้

โดยมีข้อเรียกร้อง ดังนี้

1.ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยตัวและไม่ดำเนินคดีต่อชาวบ้านที่เดินเท้ามายื่นหนังสือกับนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะไม่มีเหตุผลใดๆในการจับกุมคุมขัง เป็นการทำกิจกรรมที่ปราศจากอาวุธและสันติวิธีเป็นไปตามหลักวิถีทางประชาธิปไตย

2.ขอให้ยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อประชาชน และพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะไม่นำไปสู่การสร้างสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน และรัฐบาลไม่ควรมาตัดสินใจแทนประชาชนในพื้นที่

3.การที่รัฐบาลประกาศว่าสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาตินั้น รัฐบาลควรทำได้จริงไม่ใช้การกล่าวอ้างเพื่อให้ตัวเองดูดีในเวทีโลก และการปกป้องทรัพยากรของประเทศให้กับประชาชนก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ที่รัฐควรกระทำมิใช่ปกป้องเพียงผลประโยชน์ของนายทุนด้วยเชื่อในพลังประชาชน
สำนักข่าววิหคนิวส์