ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ม.เกษตรยังวุ่นไม่จบ ! อธิการบดียังไม่ตั้ง กก.สอบสวน บุคลากร

#ม.เกษตรยังวุ่นไม่จบ ! อธิการบดียังไม่ตั้ง กก.สอบสวน บุคลากร

26 February 2023
491   0

 

อธิการมหาวิทยาลัยเกษตร ไม่ตั้งกรรมการสอบสวน บุคคลกรวิทยาลัยเขตกำแพงแสนเพราะทดแทนบุญคุณ ผู้มากด้วยบารมี

กรณีวิทยาลัยเขตกำแพงแสนตกเป็นข่าว ผู้มากด้วยบารมีเอาสำนักงานเจ้าหน้าที่ธุรการและอาจารย์ ได้ดัดแปลงมาเป็นที่ทำงานส่วนตัวสถานโอ่อ่าใหญ่โต “เพื่อสืบทอดอำนาจ

ปัจจุบันท่านประธานโครงการท่านเกษียณอายุราชการ ไปแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาคารดังกล่าวแล้ว แต่ผู้มากด้วยบารมี ยังได้ยึดสถานที่ดังกล่าว เพื่อทำเป็นสำนักปฎิบัติธรรมทางไสยศาสตร์ มีเครื่องรางของขลัง ไว้ เพื่อป้องกัน”คุณไสย”และเป็นที่เก็บสัมภาระของตนเอง

มีห้องครัวของตนเอง จึงเป็นที่”ครหา”ว่า อาคารสีรุ่งกับตึกสามชั้น ห่างกันเพียงร้อยเมตร งบประมาณก่อสร้าง แตกต่างกันอย่างชัดแจ้ง แม้เนื้อที่ และความสูงของอาคารจะต่างกัน แต่ราคาก็จะต่างกัน ฟ้ากับดิน จริงไหมสภามหาวิทยาลัยต้องตรวจสอบ มีหนังสือถึงผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาทุกคน ก็นิ่งเฉย มันมีอะไรบังตาหรือครับ ท่านนายยกสภาและผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย

ทั้งที่ต้องนำพื้นที่นี้กลับมาใช้เพื่อการศึกษาโดยส่วนรวม ไม่ใช่เป็นสำนักปาบ”ผี” ต้องจัดการกับ”นักไสยศาสตร์ ชึ่งเป็นสิ่ง”งมงาย” ออกจากสถานที่ดังกล่าวนั้นเสีย ยังไม่มีการตรวจสอบ

นอกจากนี้ กรณีข่าว ตึก”สีรุ้ง” ชั้น ๗ อาคารนิวัฒน์ เรืองพานิช เป็น”สถานที่จัดการเรียนการสอน “แต่ถูกเสนาบดีวิทยาเขตแห่งนี้ ผู้มากด้วยบารมี “ ดัดแปลง” เป็นห้องพักตนเอง เหมือนโรงแรม”ห้า”ดาว เป็นที่เสวยสุขสำหรับบุคคลสองเพศในคนเดียวกัน “โดยมีความตั้งใจว่า “จะอยู่ที่นี้ อยู่ตี่ทรงนี้ และอยู่จนตาย” ใน”ห้องลับ”ที่ท่าน”เสนา”บดี ผู้มากด้วยบารมี จัดทำขึ้น ไร้ชึ่งจรรยาบรรณ ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา

สถานที่จัดการเรียนการสอน ได้ถูกดัดแปลงมา “เป็นวิมาน”แทนที่จะทำเป็นห้องเรียนปฎิบัติการอันทรงเกียรติ ในสถานการศึกษา เพื่อสู่ความเป็นเลิศ แต่กับทำเป็นที่เสวยสุขตนเองโดยไม่ละอายแก่ใจตนเอง “เงินของใคร” ไม่มีการตรวจสอบเลยหรือครับท่านอธิการบดี

ข่าวเค้าว่า ให้นักศึกษา”ภาคพิเศษ”ที่เสียค่าเทอมสูงถึง สองหมื่นห้าพันบาท แต่”ถูกประจาน”ต่อสาธารณะว่า เสียค่าเทอมสูง แต่”สิ่งที่ เสนาท่านนี้บริหาร “พิเศษ” ตรงได้นั้งเก้าอี้เรียน เหมือนที่นั้ง “ร้านข้าวต้มกุ๋ย แต่ใช้งบสูง ก็ยังไม่มีการตรวจสอบว่า ใช้เงินผิดประเภทหรื่อเปล่า อาคารทรุดแล้ว

อีกทั้ง ข่าวกรณี ผศ.ดร.ปิยะพงษ์ เลาศรีรัตนชัย ชึ่งเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ”ขัดขวาง”ให้เหตุผลว่า ผลงานทางวิชาการไม่มีคุณภาพเพียงพอ จึงไม่ได้รับการส่งออกจากคณะอุตสาหกรรมบริการเพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไป

จึงเป็นพฤติการณ์ที่สร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น และองค์กรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มุ่งความเป็นเลิศทางวิชาการอย่างแท้จริง

หากปล่อยให้ผลงานทางวิชาการ ขึ้นอยู่กับ ”ผู้ช่วยศาสตราจาร”เพียงคนเดียว และแสดงความรู้และมีอิทธิพล เหนือกว่า”ศาสตราจารย์ “ท่องเที่ยว ที่มีคุณวุฒิสูงสุด ในตำแหน่งทางวิชาการ ถูกทำลายความเป็นเลิศผลงานทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกตรศาสตร์ ย่อมไร้ค่า หรือไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมการศึกษาได้

รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. อนุชัย ภิญโญภูมินทร์ รองอธิการบดี และรักษาการคณบดี คณะอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ไม่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ให้เป็นที่กระจ่าง

ข่าวเค้าว่า เป็นแผนการประวิงเวลกาลัวิทพอเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เป็นการเอาใจบุคคลที่ไม่ใช่ลูกผู้ชายที่แท้จริง เพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งเสนาบดี วิทยาเขตกำแพแสน นั้นข่าวเค้าว่าท่านรองไม่กล้าตั้งกรรมการสอบ เพราะท่านผู้มากด้วยบารมี มีบุญคุณกับอธิการบดี ที่ได้สู่ตำแหน่ง เพราะบุคคลนี้ จึงเกิดความกลัว

ดังนั้น ข่าว บุคคลกร ชึ่งเป็นลูกจ้างเงินรายได้ รายงานเสนาบดีผู้มากด้วยบารมีว่า อาจารย์ผู้สอนขายข้อสอบขายข้อสอบให้นักศึกษา เมื่ออาจารย์เจ้าของวิชา ร้องเรียน บุคคลกรชึ่งเป็นลูกจ้างมหาวิทยลัยเขตแห่งนี ให้รับสารภาพว่ากลั่นแกล้งอาจารย์ ผู้สอน

ท่านผู้มากด้วยบารมีให้เด็กในคาถา ออกคำสั่งอันเป็นเท็จว่าให้พักงานเป็นการลงโทษ ชึ่งหลักฐานปรากฏต่อท่านรองกำแพงแสน ก็ได้นิ่งเฉย

ท่านรองวิทยาลัยเขตย่กำแพงแสนกลืนน้ำลายตนเอง ทั้งที่เข้ามาเป็นรอง ได้สั่งการในที่ประชุม ว่า ห้ามผู้ใดลงชื่อรักษาการแทนท่าน หรือออกคำสั่งใดๆ โดยไม่รายงานท่านก่อน เมื่อข้อเท็จจริงได้ปรากฏแก่ท่าน ๆก็ไม่กล้าแม้แต่จะตรวจสอบ เพราะเกรงบารมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตร ที่ผู้มากด้วยบารมี ที่มีบุญคุณ สนับสนุนให้เป็นเสนาบดีใหญ่

ได้ทำลายความศัทธา ให้เป็นอธิการบดี เพราะตัวการเป็นใหญ่ใน มหาวิทยาลัยเกษตร สิ่งเหล่านี้จึงสร้างความเสียหายต่อองค์กรฒหาวิทยาลัยภาครัฐ

ดร.สุกิจ