ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ฟันแล้ว150คดี ! ตร.เตรียมรับ 4 ม๊อบบุกทำเนียบ

#ฟันแล้ว150คดี ! ตร.เตรียมรับ 4 ม๊อบบุกทำเนียบ

21 June 2021
411   0

  21 มิ.ย. 64 – ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงมาตรการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยดูแลการชุมนุมของกลุ่ม “ไทยไม่ทน” ที่นำโดยนายจตุพร พรมพันธ์ อดีตแกนนำ นปช. และกลุ่มแนวร่วมต่างที่จัดชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีวันที่ 24 มิ.ย.นี้

พล.ต.ต.ปิยะ โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้มีกลุ่มต่างๆ ที่ประกาศรวมตัวลักษณะเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายเนื่องจากขณะนี้กรุงเทพฯ มีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กลุ่มต่างๆ ที่นัดรวมตัวกันมีหลายกลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 หมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดยนายชาติชาย ไพลิน นัดหมายรวมตัวที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อจัดกิจกรรมลำลึก 89 ปี อภิวัฒน์สยาม 2475 นัดหมายเริ่มเวลา 13.00 น.เป็นต้นไป กลุ่มที่ 2 ประชาชนคนไทย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ นัดหมายหน้าทำเนียบรัฐบาล วัตถุประสงค์เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกนัดหมายเวลา 12.00 น. กลุ่มที่ 3 เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดยนายเจษฎา ศรีปลั่ง นัดหมายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 11.00 น. เพื่อทำกิจกรรมขับไล่รัฐบาล กลุ่มที่ 4 คนไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายจตุพร พรมพันธ์ นัดหมายที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ไม่มีเวลาที่แน่ชัด

กองบัญชาการตำรวจนครบาลขอประชาสัมพันธ์ว่า เนื่องจากขณะนี้เขต กทม.เป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆ ในสถานที่หรือกระทำการดังกล่าวเป็นการยุยงไม่ให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯตามมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากผู้ใดฝ่าฝืนรวมทั้งผู้จัดการชุมนุม ผู้ร่วมชุมนุมจะเป็นความผิดตามข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 25 ธ.ค.63 ข้อ 3 ประกอบกับประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 5 มี.ค.64 สำหรับผู้ชักชวนให้มีการรวมตัวกันทำกิจกรรมใดๆ จะมีความผิดในส่วนของผู้สนับสนุนจะต้องรับโทษเช่นเดียวกัน ในกรณีผู้จัดเวที เครื่องเสียงอุปกรณ์ต่างๆ เป็นความผิดฐานให้การสนับสนุนจะต้องรับโทษตามกฎหมาบเช่นเดียวกัน

“ขอเน้นย้ำฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า ขณะนี้กรุงเทพฯและพื้นที่อื่นของประเทศไทยยังมีสถานการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นความเดือดร้อนของประชนเป็นลำดับแรก และการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯยังมีอัตราที่สูง ผู้ชุมนุมนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดทำให้สถานกาณ์การแพร่ระบาดลุกลามมากยิ่งขึ้น ย้ำเตือนผู้จะมาร่วมชุมนุมให้ละเว้นการกระทำดังกล่าว อยากวิงวอนผู้ชุมนุมการมาชุมนุมหรือจัดกิจกรรมทางการเมืองช่วงนี้ขอให้เห็นแก่บ้านเมือง ท่านอาจได้ผลประโยชน์จากการชุมนุมทางการเมืองแต่ประเทศชาติบอบช้ำ ขอให้สถานการณ์โควิด-19ผ่านพ้นไปก่อนค่อยว่ากันใหม่ดีกว่า” โฆษก บช.น. ระบุ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การดำเนินการตามมาตรา 3 อนุ 6 พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะไม่สามารถกระทำได้ ถ้ามีการรวมตัวกันจะผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่ มีการเตรียมกำลังไว้ตามตามสถานการณ์การข่าว จุดเฝ้าระวังพิศษคือจุดสัญลักษณ์ของประเทษโดยเฉพาะโบราณสถานหรือโบราราณวัตถุ หรือจุดที่เป็นสถานที่สำคัญของประเทศบางอย่างเสียหายไปแล้วเราไม่สามารถซ่อมแซมได้ ส่วนการข่าวที่จะมีผู้เข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายยังไม่มี อย่างไรก็ตามตำรวจนครบาลมีการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามถึงการติดตามสถานการณ์การชุมนุมที่ต่างจังหวัดนอกจากในพื้นที่ของกรุงเทพฯแล้ว พ.ต.อ.กฤษณะ ตอบว่า อย่างที่ทราบกรุงเทพฯ มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การออกมาชุมนุมไม่ว่าจะเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดอาจมีการกิจกรรมคู่ขนานกัน อยากให้ดูว่ากฎหมายที่บังคับใช้ ผู้ชุมนุมปฏิบัติได้หรือถ้าทำแล้วเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย นอกจากนี้ยังต้องไปดูคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ ที่รับผิดชอบในการดำเนินการให้เป็นไปตามความปลอดภัยของสาธารณสุข ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีคำสั่งและประกาศที่แตกต่างกันไป ในส่วนของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ท่านฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ปฏิบัติกับหน่วยงานร่วมปฏิบัติที่จะฝ่าพันอุปสรรคในการแพร่ระบาดไวรัสโควิดไปได้ ในส่วนของการชุมนุมบังคับใช้กฎหมายตามปกติ

ทั้งนี้้นับตั้งแต่มีการชุมนุมมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วมีการดำเนินคดีไปแล้ว 150 คดี ผู้ต้องหา 150 คน อย่างที่นำเรียนมีการดำเนินคดีตามพยานหลักฐานตามระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ อย่างที่แจ้งมาตลอดผู้ที่มาชุมนุมในช่วงใดช่วงหนึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีภายหลังอยู่แล้ว อยากฝากว่าการดำเนินคดีรวมไปถึงผู้สนับสนุนและผู้ยุงยงโดยเฉาะทางโซเชียล ใช่ว่าดำเนินการทางโซเชียลแล้วจะพ้นความผิด.