ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ปิยบุตร วิพากษ์ ‘รัฐซ้อนรัฐ’ขั้นบันไดจาก ‘คณะรัฐประหาร’

#ปิยบุตร วิพากษ์ ‘รัฐซ้อนรัฐ’ขั้นบันไดจาก ‘คณะรัฐประหาร’

23 February 2019
829   0

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ วิพากษ์การเมืองไทยบอก
คณะรัฐประหารวางระบบกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ผ่านการสังคายนากฎหมาย

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วิเคราะห์การเมืองไทยภายใต้การปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยระบุว่า ต้องยุติกระบวนการนำกฎหมายเป็นเครื่องมือในทางการเมือง เนื่องด้วยการเมืองแบบประชาธิปไตย คือ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจตัดสินใจในทางการเมือง เลือกผู้แทน เลือกรัฐบาล มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสาธารณะ เมื่อตัดสินใจแล้ว ย่อมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเสมอ

พรรคการเมือง คือ ที่รวมตัวกันของบุคคลที่มีแนวคิดอุดมการณ์แบบเดียวกัน แล้วเสนอตัวให้ประชาชนเลือก เพื่อเข้าไปมีอำนาจรัฐและดำเนินการตามแนวคิด อุดมการณ์ นโยบายของพรรคสำหรับการเมืองแบบประชาธิปไตย พรรคการเมืองจะแข่งขันกันอย่างเสรี ประชาชนมีอำนาจตัดสินใจเลือกอย่างเสรี เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็มีโอกาสเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้

“แต่การเมืองแบบ “รัฐซ้อนรัฐ” จะแบ่งงานกันทำเป็นระบบ เริ่มจาก ก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครอง เอาอำนาจที่ยึดมา เขียนเป็น “กฎหมาย” เพื่อวางกับดักไว้ เสร็จแล้ว เข้าสู่ระบบปกติ มีการเลือกตั้ง ถ้าได้พรรคการเมืองที่พวกตนเองเกลียดกลัว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป”

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุอีกว่า คนกลุ่มหนึ่ง คอยหาช่อง หารู เล่นแร่แปรธาตุเอากับกฎหมายจ้องจับผิด ตั้งตนเป็นนักร้องคอยชงเรื่องเข้าสู่กระบวนการ เสร็จแล้วองค์กรที่ครองอำนาจในนามของการตรวจสอบ ก็จะเข้าจัดการ สุดท้าย ถ้าจัดการไม่แล้วเสร็จ ก็จะกลับไปยึดอำนาจการปกครอง แล้วเริ่มกระบวนการนี้ใหม่ กระบวนการทั้งหมดนี้ ต้องมาในนามของกฎหมายกระบวนการยุติธรรม

พร้อมกันนี้ ยังใส่เสื้อผ้าอาภรณ์กฎหมาย แต่แท้จริงแล้ว คือ ความต้องการของคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการกำจัดพรรคการเมืองที่เป็นภัยแก่พวกตน

เกลียดคนใด กลัวพรรคใด ก็ต้องเฝ้าจับผิด หยิบ “กฎหมาย” มาไล่เรียงหามาตรา หาช่อง หารู ว่ามีตรงไหนที่จะเอามาเล่นแร่แปรธาตุใช้เล่นงานพวกมันได้บ้าง

“ชี้ช่องเสร็จ ก็จะมีคนอาสามาเป็นนักร้อง ชงเรื่องเข้าสู่กระบวนการ ส่งไป ร้องไป รอว่าวันหนึ่ง เวลาเหมาะสม ก็ให้องค์กรตรวจสอบทั้งหลายเชือด การเมืองไทยเป็นแบบนี้มา 13 ปีแล้ว วิธีการเช่นนี้แก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้เลย รังแต่จะสร้างวิกฤติมากขึ้นอีก แล้วยังลากเอา กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมลงเหวไปด้วยกันทั้งหมด”

Cr.สำนักข่าวตรงประเด็น

สำนักข่าววิหคนิวส์