มัลลิกา ทวงถามนายกและรัฐบาลเมื่อใดจะจัดเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลี ติงใช้งบหลวง1,400ล้านหนุนเกษตรกรแต่ปลายทางคือซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดกับปุ๋ยเจ้าสัว
10.30 น.30 กันยายน 2560 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากกรณีที่ได้สะท้อนปัญหาราคาพืชผลการเกษตรโดยเฉพาะข้าวโพดและมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญของอาหารสัตว์ที่ผลิตในประเทศโดยเรียกร้องให้รัฐบาลยุติมาตรการไม่จัดเก็บภาษีกลุ่มอาหารสัตว์ที่นำเข้าข้าวสาลีตั้งแต่สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อเนื่องมา
. รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการคลังนอกจากไม่พิจารณายกเลิกมาตรการนี้กลับเดินหน้ามาตรการภาษีนำเข้าข้าวสาลี 0% ต่อไป ทำให้กระทบเกษตรกรไทยและเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้กับเครือข่ายบริษัทยักษ์ใหญ่
. ล่าสุดเมื่อต้องมาแก้ไขปัญหาเกษตรกรครม.กลับอนุมัติงบประมาณภาษีประชาชนอีก 1,400 ล้านบาทโดยระบุว่านำไปสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดนอกฤดูเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตแต่ปลายทางคือการซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดกับปุ๋ยเครือที่ผูกขาดอยู่
. แม้การส่งเสริมปลูกพืชหลังฤดูทำนาเป็นเจตนาดีของรัฐบาล แต่อยากเรียนนายกรัฐมนตรีว่าให้ใส่ใจในรายละเอียดด้วยเนื่องจากงบประมาณ 1,400 บาท ขณะนี้มีตัวแทนของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดก็ไปสร้างเงื่อนไขให้กับเกษตรกรภายใต้งบประมาณก้อนนี้แล้วเช่นกัน โดยเฉพาะเงื่อนไขให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์พืชและปุ๋ยจากบริษัทของตนเท่านั้นถึงจะมีการรับซื้อข้าวโพดเป็นลักษณะการขายเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยด้วยระบบผูกขาดมานานถึงขนาดมีรายงานจากกษตรกรว่าจะถูกหักค่าเมล็ดพันธุ์กับปุ๋ยจากบัญชีเกษตรกรที่รับการโอนเงินผ่านธกส.เลยทีเดียว
เข้าตำราตกเขียวใช้เงินหลวงซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดและปุ๋ยของบริษัทเอกชนเพื่อเป็นการลงทุนของเกษตรกรขณะที่รัฐก็ละเว้นไม่จัดเก็บภาษีการนำเข้าข้าวสาลีซึ่งบริษัทเครือเดียวกันนี้ก็นำเข้ามาเป็นคู่แข่งผลผลิตทางการเกษตรในประเทศอีกด้วย ธกส.รู้เห็นเป็นใจกับเรื่องเงื่อนไขของบริษัทเอกชนนี้หรือไม่ อยากให้เกษตรกรเฝ้าระวังอยากเรียนว่าระบบราชการโปรดอย่ามัดมือชกประชาชน อย่าเอาเงินหลวงมาสร้างความรวยให้กับเศรษฐี มันจะกลายเป็นรวยกระจุกจนกระจายในรัฐบาลชุดนี้ โปรดอย่าบิดเบือนเจตนาดีของรัฐบาลแล้วปล่อยให้ระบบราชการเอื้อผประโยชน์ให้กับผู้ค้ารายใหญ่ซึ่งผิดวัตถุประสงค์”มัลลิกา กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์