เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ!!! รวมภาพ “พิธีถวายบังคมพระบรมรูป รัชกาลที่๕” จากสมัยอดีตสู่ปัจจุบัน สิบทอดกันมาอย่างยาวนาน!!!

#น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ!!! รวมภาพ “พิธีถวายบังคมพระบรมรูป รัชกาลที่๕” จากสมัยอดีตสู่ปัจจุบัน สิบทอดกันมาอย่างยาวนาน!!!

8 May 2017
1287   0

#น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ!!! รวมภาพ “พิธีถวายบังคมพระบรมรูป รัชกาลที่๕” จากสมัยอดีตสู่ปัจจุบัน สิบทอดกันมาอย่างยาวนาน!!!

พระบรมรูปทรงม้า ณ พระลานหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ที่ประชาชนทั้งประเทศพร้อมใจกันสร้างถวายในรัชกาลของพระองค์ ขณะยังดำรงพระชนม์อยู่เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๑ ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่งประการหนึ่ง คือ ตามปรกติอนุสาวรีย์ของบุคคลนั้น มักจะสร้างภายหลังที่บุคคลนั้นสิ้นชีวิตไปแล้ว ยกเว้นพระบรมรูปทรงม้าแห่งเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานเปิดพระบรมรูปด้วยพระองค์เอง
การสร้าง “พระบรมรูปทรงม้า” นั้น สืบเนื่องมาจาก ๒ กรณีประกอบกัน คือ กรณีที่ ๑ เวลานั้นพระองค์ทรงคิดแผนผังสนามขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมถนนราชดำเนินที่สร้างเสร็จแล้วกับพระที่นั่งอนันตสมาคมที่กำลังสร้าง กรณีที่ ๒ อีกปีเศษจะถึงอภิลักขิตมงคล ซึ่งพระองค์จะทรงครองราชย์ยืนนานยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในประวัติศาสตร์ไทยในขณะนั้น จึงควรจะมีการสมโภชเป็นงานใหญ่ และได้ดำรัสสั่งให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้สำเร็จราชการรักษาพระนคร เป็นประธานในการจัดงานสมโภช เนื่องจากพระองค์ยังทรงอยู่ระหว่างการเสด็จประพาสยุโรป โดยใช้ชื่อการจัดงานครั้งนี้ว่า “พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก”

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชและคณะเสนาบดี มีความเห็นพ้องกันว่า เนื่องจากเป็นพระราชพิธีมหามงคลที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงควรที่จะชักชวนให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศได้มีโอกาสบริจาคทรัพย์ตามกำลังเพื่อทูลเกล้าฯถวายเป็นเงินเฉลิมพระขวัญ หรือที่เรียกกันโดยสามัญว่า “ทำขวัญ” แล้วแต่จะทรงใช้สอยเงินนั้นตามพระราชหฤทัย นอกจากนี้แล้วยังมีเสนาบดีบางคนเห็นว่าควรจะสร้างสิ่งอันใดไว้เป็นอนุสรณ์เฉลิมพระเกียรติด้วย ซึ่งข้อตกลงนี้เห็นควรให้รอมติต่อเมื่อรู้ยอดเงินเฉลิมพระขวัญเสียก่อน
ในขณะเดียวกันก็ได้ทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ เสด็จไปทอดพระเนตรพระราชวังแวร์ซาย ณ ประเทศฝรั่งเศส และสนพระทัยพระรูปพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ทรงม้า หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ลานข้างพระราชวัง ทรงปรารภว่าถ้ามีพระบรมรูปทรงม้าของพระองค์ตั้งไว้ในสนามที่ถนนราชดำเนินเชื่อมกับพระที่นั่งอนันตสมาคมคงจะสง่างามดี เหมือนเช่นที่มักมีกันตามประเทศต่างๆ ในยุโรป สืบราคาสร้างพระบรมรูปเช่นนั้นว่าราว ๒๐๐,๐๐๐ บาท ในขณะนั้น
คณะกรรมการจึงสำรวจยอดเงินเฉลิมพระขวัญปรากฏว่ามีประชาชนยินดีถวายเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสิ้นประมาณ ๑ ล้าน ๒ แสนบาทเสนาบดีจึงลงมติ แล้วสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชกราบทูลขอถวายพระบรมรูปทรงม้านั้นเป็นของขวัญทูลเกล้าฯจากประชาชนชาวไทยสนองพระมหากรุณาธิคุณในพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ก็โปรดพระราชทานพระบรมราชานุญาต จึงปรากฏพระบรมรูปทรงม้าขึ้น ณ พระลานพระที่นั่งอนันตสมาคมด้วยประการฉะนี้ โดยได้สร้างแล้วเสร็จพร้อมกราบบังคมทูลถวายฯ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๑
สำหรับเงินเฉลิมพระขวัญที่เหลือจากการสร้างพระบรมรูปทรงม้าอีกประมาณเกือบ ๑ ล้านบาท ก็นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายตามมติเดิม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชดำริว่าจะนำเงินนั้นไปใช้ประการใดเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนชาวไทยเพื่อสนองคุณความกตัญญูกตเวทีที่มีต่อพระองค์นั้น ยังไม่ทันตกลงว่าจะทำประการใด ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ จึงทรงดำเนินการตามพระราชประสงค์ของพระองค์ โดยโปรดให้ใช้เงินเฉลิมพระขวัญที่ยังเหลืออยู่ก่อตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในปัจจุบันถึงแม้มิใช่วันที่ ๒๓ ตุลาคม ก็จะมีประชาชนจำนวนมากพากันไปสักการบูชาที่ลานพระบรมรูปอยู่เสมอโดยเฉพาะในวันอังคาร ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพของพระองค์ โดยมีความเชื่อว่าจะเสมือนหนึ่งไปรอเฝ้ารัชกาลที่ ๕ โดยในเวลา ๔ ทุ่ม พระองค์ท่านจะเสด็จมาประทับ ณ พระบรมรูปทรงม้าด้วย
สิ่งที่นิยมใช้สักการบูชา คือ ดอกกุหลาบสีชมพู เนื่องจากมีความเชื่อว่า ดอกกุหลาบที่มีความงามและมีหนามแหลมคม (คืออำนาจ) หากนำมาบูชาจะทำให้ผู้บูชามีอำนาจ และสีชมพูยังเป็นสีของวันอังคาร (วันพระราชสมภพ)
นอกจากนี้ ประชาชนบางคนยังนิยมจัดเป็นโต๊ะบูชา ส่วนใหญ่ประกอบด้วย บายศรี หมากพลู บุหรี่ เหล้า/ไวน์ สตางค์ น้ำมนต์ เชิงเทียน กระถางธูป ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการจัดอย่างบูชา “เทพ” ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเปรียบพระองค์เสมือนดั่งเทพยดาที่ปกปักษ์รักษาประเทศชาติ และราษฎรให้อยู่รอดปลอดภัย และเจริญก้าวหน้ามาโดยตลอด

ประมวลภาพ พระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้า จากอดีตสู่ปัจจุบัน เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีต่อ รัชกาลที่ 5

ที่มาจาก : http://www.ilovethaiculture.com

สำนักข่าว vihoknews รายงาน