ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ธนาธรยุยุบกรมหม่อนไหม ! ตามโครงการของพระพันปีหลวง อ้างลดงบ

#ธนาธรยุยุบกรมหม่อนไหม ! ตามโครงการของพระพันปีหลวง อ้างลดงบ

16 July 2021
734   0

จากกรมหม่อนไหมถึงการปฏิรูปรัฐราชการ: งบประมาณมาจากภาษีประชาชน ต้องนำไปรับใช้ประชาชน”
.
เป็นโอกาสดีที่การพูดถึงกรมหม่อนไหมของผมได้รับความสนใจทั้งจากผู้เห็นด้วย และผู้ไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก ก่อนอื่นผมจำเป็นต้องยืนยันว่า อาชีพทุกอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นผู้เลี้ยงไหม, ครู, เกษตรกรมังคุด, ข้าราชการกรมหม่อนไหม หรือพนักงานทำความสะอาด ล้วนแต่เป็นอาชีพที่มีเกียรติ
.
สิ่งที่ผมนำเสนอ ไม่มีข้อความใดดูหมิ่นเกียรติยศของอาชีพ หรือวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับผ้าไหมเลย กลับกัน ผมยังชื่นชมผ้าไหม เห็นศักยภาพ และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ไหม เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางไปอีสาน ยังซื้อผ้าไหมนาคำไฮหลายชิ้นกลับมาฝากคนที่บ้านดังที่เห็นจากรูป
.
เมื่อตัดเรื่องใส่ความ บิดเบือนคำพูดเพื่อสร้างให้ประชาชนเกลียดชังผมออกไป เนื้อหาหลักคือ ระบบราชการไทย รวมศูนย์อำนาจ ใหญ่โต เทอะทะ ขาดประสิทธิภาพ ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และรับใช้อำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชนเสมอ
.
ในภาวะที่ประเทศไทยหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นมหาศาล และกำลังจะเกินวินัยการคลังที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย เราจำเป็นต้องปฏิรูประบบราชการ ลดหน่วยงานที่ไม่จำเป็น ลดโครงการที่ไม่จำเป็น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดอำนาจ และงบประมาณราชการส่วนกลาง คืนอำนาจสู่ท้องถิ่น
.
นี่คือข้อเสนอที่สำคัญทางการเมืองเพื่อสถานภาพทางการคลังของรัฐ, เพื่อประชาธิปไตยที่ยั่งยืน และเพื่อให้ท้องถิ่นมีโอกาสเจริญเติบโต ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท ไม่ใช่สร้างรัฐราชการส่วนกลางให้เติบโตไปเรื่อย ๆ
.
การปฏิรูประบบราชการ คือความจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การสร้างดราม่าด้วยเกียรติยศของอาชีพ, การเสียสละของข้าราชการ และประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่สามารถบิดเบือน หรือซ่อนเร้นความจำเป็นนี้ได้
.
เราสามารถสนับสนุนผ้าไหมได้โดยไม่ต้องมีกรม เหมือนเช่นที่ กรมปศุสัตว์ หรือ กรมประมง สนับสนุนหลายสาขาอาชีพได้ ไม่อย่างนั้นต่อไปเราอาจมี “กรมไก่ชน” “กรมสุราพื้นบ้าน” “กรมกัญชา” หรือ “กรมทุเรียน” ถ้าปัญหาทุกด้านต้องมีหน่วยงานระดับกรมขึ้นมาดูแล เราก็จะมีกรมเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ภาระงบประมาณก็จะมากมายมหาศาล
.
ตลาดวัวในประเทศไทย ใหญ่ถึง 4.1 หมื่นล้านบาท ตลาดนมวัว 1.8 หมื่นล้านบาท ตลาดเนยจากวัวอีก 3.7 พันล้านบาท รวมมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์วัวเท่ากับ 6 หมื่นล้านบาท สินค้าจากวัวยังสร้างมูลค่าการส่งออกอีกปีละ 500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 2020
.
ขณะที่ผ้าไหมมีตลาดในประเทศปีละ 3 พันล้านบาท และสร้างมูลค่าการส่งออก 6 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 ไม่รวมเสื้อผ้าไหมสำเร็จรูป แต่เรากลับไม่มี “กรมวัว”
.
ที่กล่าวมา ผมไม่ได้หมายถึงว่าประเทศไทยต้องมี “กรมวัว” เพราะเรามีกรมปศุสัตว์ที่ดูแลกิจการเกี่ยวกับปศุสัตว์ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องมีกรมวัวแยกต่างหาก
.
อ้างอิงจากสไลด์ของคุณ Sirikanya Tansakun – ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ใช้ในการอภิปรายในสภา 16 ปีจาก 2547 ถึง 2563 ราชการไทยใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ รายจ่ายประจำจาก 66% (0.8/1.2) ของงบประมาณ กลายเป็นถึง 75% (2.4/3.2) ของงบประมาณ ทำให้ศักยภาพการลงทุนเพื่ออนาคตของเราน้อยลง
.
ประเด็นสุดท้าย ผมยืนยันว่า ตามหลักประชาธิปไตย เมื่องบประมาณมาจากภาษีของประชาชน ผู้ที่ประชาชนเลือกมาเท่านั้นที่ทรงอำนาจในการจัดสรรงบประมาณ และงบประมาณนั้น ต้องถูกนำไปใช้เพื่อทำนุบำรุงความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน ไม่ใช่นำไปส่งเสริมอำนาจบารมีให้กับผู้หนึ่งผู้ใด
——————————-