ข่าวประจำวัน » #ถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน! ปู ไปรยา ปัดมีปัญหา โกโก้ ผู้จัดการส่วนตัว ย้ำ! จากกันด้วยดี

#ถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน! ปู ไปรยา ปัดมีปัญหา โกโก้ ผู้จัดการส่วนตัว ย้ำ! จากกันด้วยดี

20 December 2017
297   0

ถือว่าเป็นช่วงที่ทั้งเรื่องงานก็รุ่ง เรื่องรักก็เริ่ด สำหรับนางเอกโกอินเตอร์ ปู ไปรยา แต่ก็มีข่าวแว่วมาว่าสถานะการทำงานในวงการบันเทิงตอนนี้ไม่ได้อยู่ในความดูแลของ โกโก้ ผู้จัดการส่วนตัวแล้ว สาวปู ขอชี้แจงประเด็นดังกล่าวในงานพรีเมียร์ภาพยนตร์ที่เจ้าตัวนำแสดงเองอย่าง Realms คนปล้นวิญญาณ ว่าเป็นเรื่องจริงที่ โกโก้ ไม่ได้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวแล้ว ยันไม่ได้มีปัญหา ยังรักเหมือนเดิม แต่อยากวางระบบงานใหม่เพราะมีโปรเจกต์ที่อยากทำอีกหลายอย่าง และตอนนี้ได้สร้างทีมงานใหม่แล้ว ในส่วนของหวานใจ หนุ่มแมทธิว ก็เข้ามาช่วยงานด้วยเช่นกัน เชื่อความรักครั้งนี้ไปรอด ต้นปีหน้าได้เจอตัวแน่นอน

“ค่ะ ตอนนี้ก็มาวางระบบงานใหม่ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากัน ปูก็ยังเคารพและรักพี่โก้เหมือนเดิม เพียงแต่พอถึงจุดๆ หนึ่งในอาชีพ ปูอายุเยอะขึ้น เดี๋ยวปีหน้าจะมีโปรเจกต์มาบอกทุกคน ปูทำหลายอย่างที่นอกเหนือจากการเล่นหนัง ซึ่งตรงนี้อาศัยการวางระบบใหม่ และปูเองก็บินไปบินมาเยอะ รู้สึกว่าอาจจะต้องเปลี่ยนการโฟกัส และปูคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทั้งปูและพี่โก้นะ เราโตมาด้วยกัน ยังไงปูก็ยังเป็นเพื่อนและเป็นพี่สาวของปู รักและเคารพเขาเหมือนเดิม คุยกันก่อนแล้วค่ะ มัน 6 ปีแล้ว มันก็ถึงเวลา เดี๋ยวมีทีมมาดูค่ะ แต่ว่าไม่ได้เป็นผู้จัดการนะคะ เป็นทีมผู้ช่วย เป็นคนไทย มีคนให้คำปรึกษา ช่วยทำงาน”     “ปูว่าสุดท้ายเมื่อวิสัยทัศน์กว้างเราดึงให้พี่โก้อยู่และเครียด เวลาปูทำงานสังคม ทำงาน UN ปูเต็มที่ แล้วกิจกรรมพวกนี้มันใช้เวลาค่อนข้างเยอะ และโปรเจกต์ที่ปูจะทำต่อจากนี้ใช้เวลาเยอะกว่านี้อีก ซึ่งปูอยากให้พี่โก้ได้โต ได้เจอคนอื่น ได้ใช้ชีวิต ได้สร้างตัวเขาด้วย ถ้าปูจะเดินไปข้างหน้า เราจะไม่เอาคนอื่นมาพ่วง กว่าเราจะถึงจุดหมาย เราต้องเอาตัวเองให้ถึงก่อน เรื่องนี้ปูคิดมานานแล้ว และคุยกับพี่โก้ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเขาดีหรือไม่ดี เขาเป็นคนดี แต่มันเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการทำงาน ณ เวลานี้ความต้องการอยู่ตรงไหน ก็คุยดีอยู่แล้วว่ามีอะไรปูยินดีช่วยเสมอ เขาเป็นพี่สาวปู เขาเป็นคนดี และปูเชื่อว่าเขารักปู ถามว่าการลาจากเป็นเรื่องที่เศร้าไหม เศร้า แต่พี่ก็รู้ว่าคนเราอากาศยังเปลี่ยนเลย กาลเวลาก็เปลี่ยน สถานะก็เปลี่ยน ถึงวาระก็เปลี่ยน”     “ในวันที่สร้างมาด้วยกันก็ขึ้นมาด้วยกัน เวลาคนนอกพูดเขาพูดง่าย แต่คนเห็นปูสู้ เวลาปูไปเมืองนอก ปูทำงานสังคม ปูวิ่งมาราธอน กว่าจะถึงจุดนี้ปูสู้แทบตายนะเพื่อปูกับพี่โก้ ปูมองว่าถ้าปูยิ่งใหญ่กว่านี้ ปูอาจจะช่วยเขาได้มากกว่านี้โดยไม่ต้องลากเขาผ่านมาด้วย มันเป็นการตัดสินใจที่อาศัยวุฒิภาวะสูงนะ ปูคิดแล้วว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูก (เหมือนจะต่อไปอาจจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีก) ปูว่ายังไงก็ช่วย แต่ไม่ใช่ในฐานะผู้จัดการ มีอะไรก็อยากจะช่วยเขาอยู่แล้ว อยากให้เขามีโอกาสที่ดีขึ้น แต่พี่โก้เขาเป็นคนเก่ง เขาไม่ต้องอาศัยให้ปูช่วยอะไรมากมาย พี่โก้เขาก็โตได้ในหลายๆ แบบ เขาดูแลเด็กใหม่ได้เหมือนกัน”

“ไม่มีนะคะ ปูว่าคนเรามักจะโฟกัสว่ามีปัญหากันหรือเปล่า จริงๆ ไม่นะ เพราะการทำงานของผู้ใหญ่เราไม่ได้มองที่ปัญหา แต่เรามองว่าใน 4 เดือน 6 เดือน 8 เดือน เรามีแพลนอะไร ในการรับผิดชอบตรงนี้ การวางแผนค่าใช้จ่าย และไหนชีวิตครอบครัวในอนาคตอีกที่ปูต้องคิด เพราะปูจะต้องเป็นปู ไปรยา ตลอดไปก็เป็นไปได้ ปูเลยต้องคิดหลายเรื่อง ที่มีทีมมาดูแล้ว ปูสามารถสั่งวิสัยทัศน์ของปูได้ว่าปูต้องการอะไร และไม่ได้เกี่ยวกับวงการบันเทิงด้วยนะ มีหลายอย่าง ทำโปรดักชั่น ไม่เกี่ยวกับการอัพเกรด ปูไม่เคยมองอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว ปูมองในเชิงว่าปูจะทำธุรกิจด้านอื่นด้วยหรือเปล่า และเราต้องสร้างลูกน้องมาวางระบบตรงนี้ให้ได้ (หลังจากนี้จะเป็นระบบดูแลตัวเอง) ในเชิงนั้นค่ะ แต่ก็ได้รับคำปรึกษาจากผู้ใหญ่หลายคน จริงๆ ตอนนี้ก็เป็นระบบงาน เพียงแต่ว่าพอพูดอย่างนั้นมันก็ไม่ยุติธรรมต่อพี่โก้ พี่โก้วางระบบงานดีมาก แต่อย่างที่บอก พอมีโปรเจกต์อื่นๆ อันนี้ต้องอาศัยทีม อย่างที่บอกว่า ปู ไปรยา จะอยู่อย่างนี้ตลอดไปมันก็ไม่ใช่”

“คนเราเดินไปข้างหน้ามันต้องไม่กลัว ปูก็เหมือนแมวเก้าชีวิต อยู่มาถึงขนาดนี้แล้ว วงการนี้สอนให้รู้ว่าไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร แต่ว่าความดีคงที่ และความจริงก็คงที่ ทำไปเรื่อยๆ พี่โก้เขาเป็นคนดี ปูเองก็มีความดีในแบบของปู ต่างคนต่างก็อยู่รอดได้ แต่บางครั้งละครมันยังมีวันจบเลย ชีวิตคนเรามันก้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง (งานที่ไทยจะน้อยลงไหม) อยู่ที่ว่าปูจะวิ่งงานรับไหม ทุกวันนี้เวลาที่ปูไปเมืองนอก ไปเดินพรมแดง ปูรับหนัง ทำโน้น ทำนี่ ก็คือหวังว่าจะมีงานกลับมา มันก็อยู่ที่ว่าคนที่ปูสั่งให้ทำงานเขาสามารถต่อรองลูกค้าได้ แต่ปูก็มีคนให้คำปรึกษาเยอะ มีพี่วู้ดดี้ มีคุณแมท มีหลายคนช่วย ช่วงนี้มีคนช่วยเยอะค่ะ ไม่ค่ะ รุ่นนี้แล้ว ปูบอกเลยว่าการเข้าสังกัดคือการหยามพี่โก้อย่างรุนแรงเลย ปูเป็นผู้หญิงแมนๆ ปูไม่ทำพี่โก้ ไม่วิ่งหาคนอื่นมาทำแทนพี่โก้ ไม่ใช่คนอย่างนั้น จะบอกว่าปีหน้าปูอยู่เมืองไทยมากขึ้น เพราะว่าคุณแมทจะย้ายมาอยู่กับปูที่ไทยช่วงหนึ่ง เพราะเขาก็ไม่อยากให้ปูทิ้งงานตรงนี้ เขาเริ่มเข้าใจ พอเราจริงจังมากขึ้นว่าอาชีพปูตรงนี้มีรายได้ค่อนข้างเยอะ เขาบอกว่าถ้าทิ้งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เดี๋ยวมกราจะได้เจอเขา เพราะเขาย้ายมาทำงานที่นี่”

“การลาจากจากคนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะลาจากด้วยเหตุผล แต่คนเราจะโตได้ก็ต้องใจเด็ด ถ้าไม่เดินไปข้างหน้าก็จะไม่รู้ว่าการสูญเสียคืออะไร ในเมื่อเรากล้าที่จะสูญเสีย เราก็ต้องกล้าที่จะสู้ต่อ (เป็นการตัดสินใจของปูคนเดียว?) ปูคนเดียวค่ะ ปูเป็นผู้หญิงที่ไม่มีใครสั่งได้ (คนมองว่าปูดึงคุณแมทมาแทนพี่โก้) ไม่มีใครดึงใครได้อยู่แล้ว แต่ถามว่าคนที่เป็นคู่ชีวิตปูมีส่วนในการให้ตำปรึกษาปูป่ะ ธรรมดาอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอกว่าการปักหลักสร้างครอบครัวใน 4-5 ปีข้างหน้า ถ้าจริงจังชีวิตคนเรามันก็เปลี่ยน มันไม่ใช่เรื่องที่แปลก คนฟังเหตุผลก็ต้องเข้าใจ เพราะว่าพี่โก้เป็นเพื่อสาว เป็นเพื่อนสนิท แต่วันหนึ่งปูต้องมีลูก ส่งเสียค่าเรียน ปูเองก็ต้องเริ่มเก็บเงินตรงนี้ เลยบอกว่ามันมีหลายอย่างที่ต้องพิจารณาที่มากกว่าคำว่าเดินจากและทิ้ง”     “คุณแมทหลักๆ เขามาช่วยดูในเรื่องของโปรดักชั่นค่ะ เพราะว่าเดี่ยวจะทำโปรเจกต์ด้วยกันที่นี่ แต่ว่าอันนั้นต้องรอดู (เหมือนเป็นการเริ่มต้นสร้างครอบครัว?) เป็นการสร้างโปรเจกต์ด้วยกันมากกว่า เดี๋ยวรอดู ปูรู้สึกว่าต่างคน่างชอบตรงนี้ ปูอยากทำอะไรใหม่ๆ ก็เหมือนอย่างที่ปูบอกแหละว่าปูหาอะไรทำใหม่ๆ ทุกปี 4-5 ปีที่แล้วก็มาราธอน อยากไปเมืองนอกก็ไป โปรเจกต์ต่อไปปูอยากทำโปรดักชั่น แล้วเขาก็เชี่ยวชาญด้านนี้มากกว่าปู ปูแค่คิดว่าอยากอยู่เมืองไทย คิดถึงที่บ้าน ก็เลยเขากลับมาว่าใช้เวลาที่นี่หน่อย คนไหนที่เป็นแฟนปู เป็นเพื่อนสนิทปูต้องมีความคิดเห็นอยู่แล้ว พูดตรงๆ เวลาดาราทุกคนก่อนรับงานก็ไม่แปลกนะที่จะถามเขาว่างานนี้เหมาะกับเราไหม การที่เราปรึกษาหลายๆ คนในเรื่องการรับงานเรามันไม่ผิดนะ เป็นสิ่งที่ถูก แสดงว่าเราชั่งใจว่าสิ่งที่เราทำดีไหม เวลาปูตัดสินใจเร็ว มักจะเป็นข้อผิดพลาดตลอดเลยไม่แปลก ถามทุกคน พ่อแม่ปูก็ถาม”   

  “ยากค่ะ การทำธุรกิจก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว อย่างที่บอกปูไม่กลัว ปูเป็นคนใจเด็ดอยู่แล้ว กล้าได้กล้าเสีย คนภายนอกมองว่าปูแกร่ง แต่ปูเสียน้ำตามาเยอะ เวลาตัดสินใจปูต้องรักตัวเองให้มากๆ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ถ้าชีวิตนี้เรามัวแต่มองว่าอะไรไปรอดไม่รอด กลัวเสียหน้า ชีวิตไม่ไปถึงไหน ลองดู รอดก็รอด แต่ปูค่อนข้างมั่นใจว่าต้องรอด เพราะว่าคนนี้เป็นคนดี (ถ้าความรักไม่รอด แล้วเรื่องงานล่ะ) นางก็คงต้องอยู่ค่ะ (หัวเราะ) แต่ยังไงคนนี้ปูค่อนข้างมั่นใจว่ารอด ตอนนี้มีผู้ช่วยมาเริ่มดูแล้วค่ะ ปูว่าคบข้ามทวีปไม่ใช่เรื่องง่าย กลางวันของเขาเป็นกลางคืนของเรา กลางคืนของเราเป็นกลางวันของเขา ปูก็เล่นบินไปเมืองนู้น เมืองนี้ เมืองนั้น การที่เป็นแฟนกับปูบางครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย บางเรื่องปูก็ค่อนข้างเห็นแก่ตัวเหมือนกัน ก็ยอมรับเลยทะเลาะกันบ่อย แต่ช่วงหลังสังเกตดูปูเบาลงเยอะ เขาสบายใจอะไรปูก็ทำให้เขาสบายใจและมันก็ดีขึ้นเยอะ เขาฝากบอกกับพี่ๆ นักข่าวว่าปีหน้าจะมาอยู่กับปูมากขึ้น อาจจะมาช่วยงานการกุศล เขามาในเดือนตุลา เขารักประเทศไทยมาก และปูก็รักที่นี่เขาก็อยากแบ่งเวลา” ปู ไปรยา กล่าว.

Cr.gossipstar.mthai

สำนักข่าววิหคนิวส์