ข่าวประจำวัน » เศรษฐกิจ » #ต้องเร่งตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน

#ต้องเร่งตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน

11 March 2018
731   0

ในระยะเริ่มแรกที่มีการยึดอำนาจ คสช. ได้ตั้งนโยบายสำคัญในการสร้างสรรค์และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยมุ่งให้บังเกิดผลแก่ประชาชนทุกภาคส่วน นั่นคือการกำหนดนโยบายการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษรวม 9 เขตขึ้นในประเทศไทย

เขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวนี้เกือบทั้งหมดตั้งอยู่ตามจังหวัดชายแดนทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ในการกระจายการพัฒนา และการสร้างสรรค์ประเทศไปยังทั่วทุกภาค ซึ่งเห็นได้ชัดว่าย่อมบังเกิดประโยชน์โดยตรงแก่ประชาชนทุกภาคของประเทศ

ในระยะเริ่มแรกนั้นมีการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจเป็นแม่งาน และยังมีการมอบหมายให้แกนนำสำคัญของ คสช. เป็นแม่งานในส่วนของ คสช. ด้วย

ประชาชนในทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนรวมทั้งประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่ติดต่อกันต่างเฝ้าคอยหวังความเจริญรุ่งเรืองจากนโยบายดังกล่าว จะแผ่ไปถึง แต่รอแล้วรอเล่าก็กลายเป็นเรื่องที่ต้องรอต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

ท้ายที่สุดแทนที่จะได้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษข่าวคราวก็กลับกลายเป็นว่าต้องแสวงหาที่ดินเพื่อตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเรื่องของนายทุนใหญ่ที่จะพิจารณาลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรม มิได้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเหมือนที่ประเทศอื่นเขาทำกัน

ครั้นนายทุนหาที่ดิน แต่หาที่ดินให้กับนายทุนไม่ได้ นโยบายนี้ก็ค่อยๆ แผ่วลงๆ จนเลือนหายไปกับสายลม เหมือนกันการผายยามหิวฉะนั้น

ความจริงก็มีผู้นำเสนอแนวความคิดมามากหลายเกี่ยวกับวิธีการในการทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ แม้กระทั่งมีการเสนอให้ใช้วิธีการที่มีการทำสำเร็จมาแล้ว ดังเช่นการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศจีน ซึงมีการจัดตั้งและประสบความสำเร็จในหลายเขต

ซึ่งได้กลายเป็นแบบอย่างในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษให้แก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และถ้าหากตั้งความปรารถนาแท้ให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่บ้านเมืองแล้วไซร้ ก็สามารถดูตัวอย่างที่เป็นจริงได้ในทุกแง่ทุกมุม ก็จะเห็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ที่บังเกิดแก่ประเทศชาติและประชาชน

ที่สำคัญเมื่อเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดนขึ้นแล้วก็จะเป็นแหล่งระดมการลงทุนโดยธรรมชาติจากสามแหล่ง คือ จากในประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้าน และจากทั่วโลก

ปรากฏว่าหามีใครสนใจที่จะทำการยิ่งใหญ่นี้ให้ประสบความสำเร็จไม่ ทำให้เข้าใจประหนึ่งว่าการใดก็ตามหากไม่บังเกิดประโยชน์แก่นายทุนใหญ่แล้ว ต่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนสักเพียงไหน ก็ไม่ใช่ประโยชน์สำคัญที่จะต้องสนใจทำการให้สำเร็จ

ดังนั้นถึงวันนี้จะสี่ปีแล้ว นโยบายจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษจึงมีฐานะเพียงแค่ลมปาก ที่ประชาชนได้แต่หวังและจะต้องหวังต่อไปจนกว่าจะมีวีรบุรุษของแผ่นดินอุบัติขึ้นแล้วมาจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จมรรคผลต่อไป

ในขณะเดียวกันกับที่นโยบายสำคัญของ คสช. ในเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ 9 เขต ที่อำนวยประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนเลือนหายไปกับสายลม กลับมีเรื่อง EEC เข้ามาแทนที่

และนับถึงวันนี้ก็ไม่ปรากฏว่าเรื่อง EEC นั้นได้มีการพิจารณาศึกษาหรือตั้งโครงการพิจารณาศึกษากันอย่างไรและเมื่อใด เพราะประชาชนทั่วประเทศไม่เคยรับทราบรับรู้มาก่อนเลยว่า EEC คืออะไร ทำไมจะต้องทำ EEC และจะต้องทำอย่างไร จะต้องลงทุนเท่าใด ประเทศชาติจะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้าง

เรื่องราวของ EEC ปรากฏจากคำพูดของคนไม่กี่คน ไม่มีรายละเอียดที่ประชาชนทราบหรือเข้าใจได้เลย โดยเฉพาะคือประเทศไทยและคนไทยจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง คุ้มกับการลงทุนเกือบสองล้านล้านบาทหรือไม่

เพราะข่าวคราวที่ปรากฏนั้นมีแต่เรื่องผลประโยชน์ของนายทุนใหญ่ เช่นจะมีการยกสนามบินอู่ตะเภาให้กับผู้ลงทุนรายหนึ่ง จะให้เอกชนได้สิทธิ์ในการเดินรถไฟเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ และดอนเมือง โดยจะมีการยกการใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่มักกะสันที่มีมูลค่ารวมกันเกือบ 500,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการจูงใจ ทั้งจะมีการให้สิทธิ์แก่เอกชนในการทำรถไฟเชื่อม 3 ท่าเรือในภาคตะวันออกด้วย

กฎหมาย EEC ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อตรากฎหมาย แต่ข่าวคราวที่ปรากฏต่อสาธารณะนั้น กลายเป็นว่ามีการจัดสรรปันแบ่งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ไปกันหมดแล้ว

แม้กระทั่งสิทธิประโยชน์ของต่างชาติที่จะได้เช่าแผ่นดินไทยถึง 99 ปี โดยไม่ต้องใช้เรือปืนบังคับ ได้สิทธิ์ที่จะได้รับวีซ่าเข้าเมืองครั้งละ 5 ปี และสำหรับกิจการบางประเภทก็จะได้สิทธิ์ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี 10-15 ปี อันเป็นสิทธิ์ที่เหนือกว่าผู้ลงทุนรายอื่นในพื้นที่อื่นของประเทศไทย

ข่าวคราวที่เปิดเผยออกมาล้วนแต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ของนายทุนและต่างชาติ แต่ผลประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทยนั้นอยู่ตรงไหน และมีอยู่หรือไม่ ไม่เคยปรากฏ

จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนทั่วประเทศที่จะต้องจับตาติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะความดำรงคงอยู่และความดับสูญของชาติบ้านเมืองก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แหละ.

โดย สิริอัญญา

สำนักข่าววิหคนิวส์