ข่าวประจำวัน » #ดร.สุกิจฯ ชี้คดีพริตตี้เดียร์อาจโอละพ่อ อาจตกเป็นผู้ต้องหาได้

#ดร.สุกิจฯ ชี้คดีพริตตี้เดียร์อาจโอละพ่อ อาจตกเป็นผู้ต้องหาได้

30 September 2019
2290   0

ดร. สุกิจ พูนศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมาย กล่าวว่า

กรณี พริตตี้เดียร์ แจ้งความ กลุ่มบ้านปาร์ตี้บางบัวทอง จนทำให้มีการออกหมายจับ 6 ราย ใน 2 ข้อหา คือ ซ่องโจร และ อนาจาร ไปแล้ว โดย พริตตี้เดียร์ ได้ยืนยันว่า ไปทำงานเอนเตอร์เทน ไม่ได้สมยอมให้มีการล่วงละเมิดแต่อย่างใด พร้อมกับตั้งข้อสังเกตเรื่องบ้านปาร์ตี้มีการเปลี่ยนพื้นชั้นบนบ้าน ซึ่งพริตตี้เดียร์ ระบุว่าฟื้นมาในห้องดังกล่าวนั้นหนึ่งในหากผู้ต้องหาได้เปิดเผยคลิป ว่าพฤติการณ์ที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากับ 1 ใน 6 ผู้ต้องหานั้น ตามคลิปน้องเดียร์จะปฏิเสธความรับผิดว่า ไม่ได้ร่วมกันมั่วสุมกันนั้นยากที่จะรับฟังเป็นความจริงได้ ตำรวจต้องแจ้งข้อหาพริตตี้เดียร์ด้วย ฐานร่วมเป็นช่องโจรด้วย

ถ้าหากพยานหลักฐานที่น้องพริตตี้เดียร์ ใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง ตำรวจต้องดำเนินคดีกับน้องเดียร์กับพวกในความความผิดฐานแจ้งความเท็จและอ้างพยานหลักฐาน อันเป็นเท็จโดยไม่ต้องมีใครไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ทั้งนี้ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อเนื่องต่อที่น้องเดียร์แจ้ง 1 ใน 6 ผู้ต้องหานั้นเป็นอาญาแผ่นดิน

ตำรวจภูธร 1 และตำรวจบางบัวทอง ต้องไม่นิ่งเฉยนะครับ หากตำรวจเพิกเฉยย่อมมีความผิด ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้
ทั้งนี้ความปรากฏตามสื่อโดยผู้ต้องหาหนึ่งในหกเป็นผู้ปล่อยคลิป ลักษณะของหญิงนั่นไม่ได้ถูกกระทำการอนาจารเลย เป็นการสร้างเรื่องขึ้น เพื่อแกล้งให้ผู้อื่นต้องรับโทษ และเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่าหญิงนั้น ไม่ได้ทำคนเดียว พยานหลักฐานชัดเจนว่าข้อความที่น้องเดียร์แจ้งความกับพนักงานสอบสวนนั้นไม่เป็นความจริง ตำรวจต้องสอบสวนผู้ร่วมกระทำผิดด้วย

เรามีดูแนวคำพิพากษาศาลฎีกาฎีกาที่ 8611/2553ในความผิดฐานแจ้งความเท็จนั้น จะต้องเป็นกรณีที่จำเลยรู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นแต่กลับไปแจ้งความแก่พนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริง ทำให้ตำรวจต้องไปออกหมายจับผู้อื่นโดยไม่มีความผิด การกระทำของน้องเดียร์กับพวกจึงเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จตาม ป.อ. มาตรา 137 มาตรา 172 วรรคสอง ประกอบมาตรา 173 ย่อมเป็นความแจ้งความเท็จว่ามีความผิดอาญาเกิดขึ้น (ม 174) นอกจากนี้ ยังมีเจตนาแจ้งความเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่ 1 ใน 6ผู้ต้องหา อันเป็นการใส่ความโจทก์ร่วมต่อบุคคลที่สามตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา (ม. 326)

สำนักข่าววิหคนิวส์