ข่าวประจำวัน » #การเมืองง่ายดั่งพลิกฝ่ามือ

#การเมืองง่ายดั่งพลิกฝ่ามือ

22 September 2019
1300   0

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนาได้โพสต์เฟสบุ๊คถึงสถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ว่า

ภัยธรรมชาติ ภัยการเมือง การบาดเจ็บล้มตายของคนจำนวนมาก คนมีชื่อเสียง และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เกิดขึ้นมาตามเวลา ที่เกิดขึ้นช่วง 17 สิงหาคม 2562 และระยะที่2 เมื่อ 15 กันยายน 2562 เป็นต้นมา ทำให้เกิดภัยธรรมชาติในจีน อินโดนีเซีย ไทย สหรัฐ อินเดีย ฯลฯ ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุเฮอรีเคน

ภัยการเมือง เกิดการจราจลในฮ่องกง การชุมนุมอินโดนีเซีย รัสเซีย อังกฤษ เกิดการก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน ซาอุฯ ไทยเกิดการก่อการร้ายในภาคใต้ ควบคู่กับการเมือง ทั้งการถวายสัตย์ คุณสมบัตินายก-รัฐมนตรี ที่ถูกโจมตีเปิดโปงเรื่องการค้ายา วุฒิการศึกษาปลอม เป็น

การบาดเจ็บล้มตายของคนจำนวนมาก เกิดขึ้นในหลายประเทศเช่น อัฟกานิสถาน ฮ่องกง ฯลฯ ส่วนไทยน้ำท่วม ทำให้คนเสียชีวิตถึง 17 ราย อพยพหลายหมื่นคน เดือดร้อนนับสิบล้านคน

การล้มตายของคนที่มีชื่อเสียง (ส่วนมากเกิดขึ้นตามอายุขัย) ก็เกิดตามเวลา ล่าสุด พล.อ.อ. กำธน สินธวานนท์ อดีตองคมนตรี ก็ได้ถึงแก่อนิจกรรม ก่อนหน้านี้ โรเบิร์ต การเบรียล มูกาเบ อดีตผู้นำเผด็จการซิมบับเว วัย 95 ปี เสียชีวิตลง นายสมบูรณ์ จีระมะกร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอดีตส.ส.นครราชสีมา ถึงแก่กรรม และ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง และ อดีตผู้นำตูนิเซีย ‘ซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี’ เสียชีวิตขณะลี้ภัยในซาอุฯ

ในเชิงยุทธศาสตร์ทางการเมืองการปกครองแล้ว คดีดัง พริตตี้ และน้ำท่วม จะทำให้เกมส์การเมืองในไทยเบาลง ไม่เกินสิ้นเดือนกันยายน 2562 หลังใช้กลยุทธ์ “ตายเพื่อเกิดใหม่” จึงต้องออกอย่างน้อย 3 ยุทธการ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จากถูกกล่าวหาเป็นทรราช พลิกขึ้นมาเป็น ”วีรบุรุษ” เหมือนดัง เต้ พระราม 7 หรือ มงคลกิตติ์ แห่งพรรคศรีวิไลซ์ ได้เคยทำสำเร็จมาแล้ว

จากก๊กที่ไม่มีก๊กกลายเป็นมีก๊ก จากพรรคที่ไม่มีกำลังกลายเป็นมีกำลัง จากภาพที่เป็นลบกลายเป็นบวก อย่างน่าเหลือเชื่อ การพลิกเกมส์ของรัฐบาลที่เริ่มต้นกลยุทธ์ตายเพื่อเกิดใหม่ ตั้งแต่ 17 กันยายน 2562 ทำให้ภาพพจน์ดีขึ้น ทั้งนอกและในสภา แม้จะถูกโจมตีมาอย่างหนักในหลายเดือน จนเกิดอาการป่วยเป็นโรคเครียด นอนไม่หลับ กลับกลายมายิ้มแฉ่ง ลั่นลาได้อย่างน่าแปลกใจ

หากนำหลักทฤษฎี swot analysis เชิงการบริหารธุรกิจมาจับการทำงานของรัฐบาลที่มีหลักง่ายๆความหมายของตัวอักษร SWOT คือ

1. Strengths จุดแข็ง
วิเคราะห์จุดแข็ง คือ มีทีมงานภาคยุทธวิธีที่เก่ง สั่งการแล้วเร็ว ตามขั้นตอนกระบวนการของทหาร ได้รับการสนัยสนุนจากต่างชาติ เป็นผู้นำอาเซียน , มีฝ่ายค้านที่กลายเป็นฝ่ายแค้น มุ่งล้มเพียงรัฐบาลโดยไม่มีสิ่งสร้างสรรค์

2. Weaknesses จุดอ่อน
วิเคราะห์ข้อด้อย ขาดบุคลากร ทักษะทางการเมือง การปกครอง ชั้นกลาง ชั้นสูง เป็นที่ปรึกษา ให้การสนับสนุน , เมื่อโดนโจมตีฝ่ายปฏิบัติการสับสน ในเหตุการณ์ แก้สถานการณ์มิได้ , กรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ไม่สามารถขับเคลื่อนอะไรได้ ทำให้การปฏิรูป ปรองดอง ล้มเหลว

3. Opportunities โอกาส
วิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่ทำให้บริหารประเทศได้ เพราะชนะการเลือกตั้ง มีงบประมาณ มีกำลังพลเรือน ทหาร ข้าราขการ ,นำเสนอแนวคิดวิศัยทัศน์ผู้นำ , มีการเปลี่ยนราชกาลที่สมบูรณ์ , มีอำนาจสั่งการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

4. Threats อุปสรรค
วิเคราะห์ปัจจัยภายนอกองค์กรที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน ไม่มีทีมงานที่ปรึกษานายก ที่ชำนาญยุทธศาสตร์การเมือง การปกครอง , ใช้หลักคิดการทหารนำการเมือง, แก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ , ขาดทักษะความเข้าใจเชิงยุทธศาสตร์ ยุทธการ , คนใกล้ชิดกีดกันผู้รู้ ยึดเพียงผลประโยชน์ อำนาจ ตำแหน่ง ทำให้การแก้ไขปัญหาจะแก้ได้เพียงรเยะสั้น แล้วจะวกกลับมาจุดเดิม

หากนำหลักมาจับการทำงานจะพบว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการแก้ไข มีหลักที่ ที่ปรึกษา ที่ยังไม่มีการแต่งตั้งในรัฐบาลใหม่ ในสหรัฐจะมีทีมวอร์รูมยุทธศาสตร์ทางการเมือง การปกครอง 7 คน ไม่เปลี่ยนแปลง แท้จะเปลี่ยนรัฐบาล จึงทำให้ประเทศเดินหน้า สานต่อในสิ่งที่รัฐบาลก่อนหน้าทำมา จึงควรจัดหาที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ใหม่ หรือเพิ่มเติม จากคนเก่าในรัฐบาลก่อนที่ลาออก และชราภาพ ไม่สามารถทำงานได้

อย่าเดินผิดพลาดเหมือนยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ดันเอาคนใกล้ชิดมาทำหน้าที่ “ แก๊งไอติม “ สุดท้ายรัฐบาลก็ล้มลงเพราะแก๊งนี้ แล้ว เดินหน้าปฏิรูปประเทศ ประชุมสภาผู้แทนราษฎร-วุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญ 60 ที่ต้องทำร่วมกัน 2 สภา ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่ม เพราะไม่รู้ว่าจะปฏิรูปอะไร

ส่วนการปฏิรูปตร. โดยให้ออกกฎหมายบังคับตร. โดยให้มีชัย ร่างข้อบังคับนั้น มาผิดทาง ส่วนเรื่องการให้ศึกษายกเลิกการเกณฑ์ทหาร นั้น สมควรทำไว้ แต่ยังไม่ถึงเวลาลงมือ เพราะต้องปฏิรูปฝ่ายความมั่นคงทั้งระบบ ตร. ทหาร ให้แล้วเสร็จก่อน มิควรข้ามขั้นตอนการปฏิบัติ จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย ตร.-ทหาร จะขัดแย้งกันรุนแรงอย่างมิจำเป็น

การที่สหรัฐจัดกิจกรรมให้ผู้นำอาเซียนอย่างไทย เดินทางไปก็เพื่อ แสดงศักยภาพให้จีนเห็น หลักจีนใช้หลักประโยชน์เข้าล่อ ให้ 7 ประเทศ หันมายืนข้างจีน ลอยแพไต้หวัน ในยามที่ฝรั่งสนับสนุนการรุกรานแบ่งแยกในฮ่องกง การเจรจาอื่นใดจึงต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะการจะขอใช้อู่ตะเภาเป็นฐานทัพของสหรัฐ อันจะส่งผลกระทบให้ไทยเสี่ยงเจอภัยคอมมิวนิสต์ เหมือนเคยเจอมาแล้วในยุคสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร สิ้นสุดในยุคพลเอกเปรม ติณสูลานนท์

จากภัยธรรมชาติปัจจุบันมี จังหวัดที่ประสบอุทภัยหนักไป 35 จังหวัด เดือดร้อนนับสิบล้านคน อพยพนับแสน ตายไป 35 ศพแล้ว สถานการณ์จะดีขึ้นหลัง 30 กันยายน และจะหนักขึ้นในราวตุลาคมอีกระลอกใหญ่

เมื่อกรมอุตุฯประกาศว่าจะเกิดฝนตกหนักทั่วไทย อากาศจะหนาวลดลง 5 องศา นั้นหมายถึงนอกจากน้ำจะท่วมเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำจะมากขึ้น จะเกิดการล้มป่วยจำนวนมาก ในช่วงเปลี่ยนฤดู สั่งการไปยัง กระทรวงสาธารณะสุข จึงต้องเร่งให้ความรู้ ให้ อาสาสมัครสาธารณะสุข (อสม.) เข้าไปช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีคนล้มป่วยจำนวนมาก ก่อน 23-26 กย. ที่อากาศจะลดลง

บุคคลใต้บังคับบัญชา ทางการทหาร ตำรวจ ที่เหมาะสมจะช่วยงานได้ เช่น พล.ต.อมรเดช พิชิตรณภูมิ ที่ปรึกษาประจำกลาโหม จะช่วยเรื่องของการหาเงินได้หลายหมื่นล้าน กู้ยืมแบบไม่มีดอกเบี้ยได้ พ.อ.รัฐเขต แจ้งจำรัส ประจำบก.สส. จะช่วยเรื่องการข่าวทางการเมืองได้ดี ควรไปประจำอยู่ กอ.รมน. พตอ.ธรรมนูญ มั่นคง รองผบก.ตชด. จะช่วยเรื่อง กทม. ควรไปอยู่ ผบก.191 ได้ดี ผกก.สภต.ภูพิงค์ เชียงใหม่ ยังมิสมควรย้าย

หลักการใช้คนให้ถูกกับงาน ใช้งานให้ถูกกับคน เป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการประเทศ องค์การ และองค์กร

การดำเนินการในเรื่องน้ำท่วมในต่างจังหวัด ในพระนครนั้น ได้ดำเนินการมาอย่างถูกทางแล้ว ควรเร่งในการประชาสัมพันธ์ ผ่านวอร์รูม ในจุดเกิดเหตุ และในทำเนียบรัฐบาล ทุกการเคลื่อนไหวในเชิงบวก ในการช่วยเหลือประชาชน การยกระดับภัยพิบัติ ถ้าจะให้ เห็นภาพการแก้ปัญหาน้ำท่วมได้สวยงามขึ้น ควรย้ายผู้ว่าราชการที่เคยทำงานที่ขุนน้ำนางนอน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มาเป็น อธิบดีกรมบรรเทาสาธารณะภัย

สิ่งเหล่านี้คือหลักการบริหาร ที่สามารถนำทฤษฎีเชิงการบริหารนำมาเป็นเครื่องมือมาจับ ทำให้มองภาพเชิงการบริหารได้ออก สามารถพลิกวิกฤติภัยธรรมชาติ ภัยการเมือง ให้กลายเป็นโอกาสได้ไม่ยาก “ง่ายดั่งพลิกฝ่ามือ” กระแสคนก่นด่า เริ่มกลับกลายเป็นคำชมที่ดีขึ้น อย่างน่าเหลือเชื่อ

“ บางคนตั้งคำถามว่าผมทำแบบนี้เพื่ออะไรช่วยเขาทำไม เคยได้รับผลตอบแทนอะไรบ้าง คำตอบคือ ทำความดี เพื่อความดี “

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
22 กันยายน 2562

สำนักข่าววิหคนิวส์