นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึง 6 คำถาม ของ พ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ประชาชนคนใดจะตอบคำถาม 6 ข้อของนายกฯ ก็ถือเป็นสิทธิ์ แต่ตนคงไม่มีความจำเป็นหรือประโยชน์ใดๆ เพราะคำถามทุกข้อมีคำตอบของผู้มีอำนาจอยู่ในตัวแล้ว และเป็นคำตอบที่ตกผลึกมาตลอดเวลาเกือบ 4 ปี ดังที่ปรากฏในการให้สัมภาษณ์หรือปาฐกถาของนายกฯ มาตลอด
แนวหน้า – ทั้งนี้ โรดแมปการเลือกตั้งอาจขยับอีกได้ แต่โรดแมปทางอำนาจจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ เรื่องนี้จึงไม่ใช่การโยนหินถามทาง แต่เป็นการหงายไพ่เล่นว่า การเมืองของประเทศไทยในอนาคตไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงหลักการประชาธิปไตย แต่ต้องมีแนวทางตามกรอบที่ คสช.กำหนดไว้ ซึ่งจริงๆ ทั้ง 6 ข้อ แทนที่ได้ด้วยคำถามเดียวคือ หลังการเลือกตั้งประชาชนยินดีจะให้ คสช.อยู่ในอำนาจต่อไปหรือไม่
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า เคยตั้งข้อสังเกตว่า ผู้มีอำนาจคณะนี้ทำการบ้านเรื่องการรักษาอำนาจ บางครั้งก็เห็นความยืดหยุ่นพลิกแพลงตามสถานการณ์ แต่มาถึงตรงนี้กลับออกลูกโฉ่งฉ่างอย่างน่าประหลาดใจ อาจเป็นเพราะมั่นใจว่าประชาชนปลื้มมาก หรือใกล้เวลาที่บางอย่างต้องชัดเจนขึ้น เช่น ต้องเปิดตัวพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ หรือการส่งสัญญาณจับมือกับฝ่ายการเมืองเดิมบางกลุ่ม ซึ่งไม่ว่าจะมารูปแบบไหนก็รอดพ้นสายตาประชาชนไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การถามความเห็นทางการเมืองของประชาชนอย่างตรงไปตรงมาที่สุดคือการเลือกตั้ง หวังว่าเมื่อถึงเวลาคงกล้าพอจะให้ประชาชนตัดสินใจ
“เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ แต่ละพรรคมีจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง การจะจับมือกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และยังไกลเกินไปที่จะพูดถึงเฉพาะหน้า แต่ละพรรคควรพิสูจน์ความจริงใจกับประชาชนเสียก่อน โดยประกาศจุดยืนไม่เอานายกฯ คนนอก แค่นี้ก็จะเห็นชัดว่าไผเป็นไผ” แกนนำ นปช.กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์