10 ตุลาคม 2560 เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช.) คณะกรรมการสหกรณ์นิคมพิชัยภูเบนทร์ จำกัด และตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ นำโดย นายอธิวัฒน์ บุญชาติ ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ หรือ ภตช. โดยได้นำเรียนหนังสือถึงท่านพลเอกสำเริง พินกลาง ประธาน ภตช.
นายอธิวัฒน์กล่าวว่า ในกรณีที่พี่น้องประชาชนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ นิคมพิชัยภูเบนทร์จำกัดได้ ติดตาม การโอนกรรมสิทธิ์ ในที่ดินของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งมี มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2553 ตามหนังสือที่อ้างถึงของแต่ละหน่วยงานที่ได้รับผิดชอบในการดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุซึ่งเกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ต้องการ กรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของตนเอง
โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการนำเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่สหกรณ์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสรรให้แก่สมาชิกตามวิธีการของสหกรณ์พ.ศ 2518 ถึงแม้ที่ดินดังกล่าวจะเป็นที่ของราชพัสดุ โดยมีการให้กระทรวงการคลังบังคับหลังไว้เลยว่าให้สหกรณ์นำที่ดินไปจัดสรรให้แก่สมาชิกเพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพอย่างแท้จริง จะนำไปจำหน่ายจ่ายโอนแก่บุคคลอื่นมิได้เว้นแต่เป็นการโอนให้ทายาทหรือผู้มีสิทธิ์รับมรดกของสมาชิกสหกรณ์เท่านั้น
สมาชิกสหกรณ์ทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนโดยจากการติดตามการขายที่แปลงหมายเลขทะเบียนที่ 380 โฉนดเลขที่ 1213 เนื้อที่จำนวน 1,090 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา ตำบลไร่อ้อย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้กับสหกรณ์ในราคา 2 ,304,000 บาทตามที่ทางราชการได้ลงทุนไปแล้วนั้นทางสมาชิกสหกรณ์ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและไปชุมนุมเรียกร้องกับทางสื่อมวลชนและรัฐบาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยนับเวลา ตั้งแต่ปี 2519-2546 และช่วงปี 2553 จนถึง ณ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ประเด็นคือ มีมติ ครม. ให้ สหกรณ์ซื้อที่ดินจากกรมธนารักษ์ เพื่อมาเป็นของสหกรณ์ และ โอนกรรมสิทธิ์ให้สมาชิกจำนวน 79 ราย โดยห้ามนำไปจำหน่ายจ่านโอนแก่บุคคลอื่นยกเว้นให้ทายาทหรือผู้มีสิทธิ์รับมรดกเท่านั้น ตั้งแต่มีมติ ครม. 30 มีนาคม 2553. จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีความชัดเจนในการมอบกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้แก่สมาชิกของสหกรณ์นิคมพิชัยภูเบนทร์แต่อย่างใด
ยังความเดือดร้อนมาถึงสมาชิกสหกรณ์ในทุกครัวเรือนโดยสมาชิกสหกรณ์ ได้เข้าไปร้องเรียนต่อประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ หรือ ภตช. ผ่านผู้อำนวยการสำนักงาน ภตช. โดยได้มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กรณีที่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือที่ดินยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการนั้นทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ในการเข้าถึง
การนำนโยบายต่างๆเข้ามาพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าวโดยเฉพาะยกตัวอย่างเช่นการที่จะทำน้ำประปาขุดเจาะบาดาลหรือการทำถนนหนทางต่างๆก็ยังติดขัดระหว่างหน่วยงานของท้องถิ่นกับหน่วยงานของกรมธนารักษ์และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้พี่น้องประชาชน เสียสิทธิ์หรือว่ากระทบสิ่งที่ควรมีควรได้ในการนี้ทางผู้อำนวยการสำนักงาน ภตช. โดยนายนักบุญ อรรคบุตร ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนไว้เพื่อดำเนินการในการตรวจสอบถึงความล่าช้าหรือความไม่เร่งรัดในการดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
สำนักข่าววิหคนิวส์