18 ก.ย.60 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เดินทางยื่นเอกสารต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายฐานฟอกเงินกับผู้เกี่ยวข้องการกระทำผิดโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ
แนวหน้า – นายวีระ กล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานการประชุมที่มีการลงลายมือชื่อผู้ร่วมอนุมัติปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มกฤษฎานครมหานคร จำนวนกว่า 3,000 ล้านบาท มาให้ตรวจสอบหลังดีเอสไอ ยื่นฟ้องต่อศาลแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด เมื่อวันที่ 26 ส.ค.58 ลงโทษผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องเครือกฤษดามหานคร โดยผู้บริหารธนาคารกรุงไทยมีทั้งหมด 5 คนถูกดำเนินคดี 3 ราย ติดคุกคนละ 18 ปี ส่วนอีก 2 ราย ไม่ถูกดำเนินคดี รวมทั้งยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกรายหลายที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี
“มีเจ้าหน้าที่รัฐนำหลักฐานมาร้องเรียนผมให้ยื่นดีเอสไอ ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เอาผิดผู้เกี่ยวข้องทุกรายไม่มีละเว้นในฐานะผู้โอนและผู้รับโอนเงินที่มาจากการกระทำความผิดตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก็ส่งหลักฐานเส้นทางการเงินกับบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ดีเอสไอเรียบร้อยหมดแล้วเช่นกัน” นายวีระ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า เอกสารที่นำมามอบให้เป็นรายชื่อใหม่ของผู้บริหารธนาคารกรุงไทย 2 ราย เตรียมส่งเรื่องไปยังสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ ดำเนินการตรวจสอบ ส่วนคดีของ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยทาง ปปง.เป็นผู้กล่าวหาเพิ่มเติมหลังตรวจสอบเส้นทางการเงินและพบความเชื่อมโยงจึงส่งมาให้ดีเอสไอ เมื่อเดือน ธ.ค.59 เป็นคดีใหม่ 25/2560 ขึ้นมาแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวน
สำนักข่าววิหคนิวส์