15 ก.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ได้เกิดเหตุน่าตกใจขึ้นที่ห้องน้ำหญิงบริเวณชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตึกดังกล่าวเป็นสถานที่ทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงมีห้องประชุม ครม.อยู่ชั้น 5 ด้วย
โดยเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ขณะที่ผู้สื่อข่าว และข้าราชการ เข้าทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำ ซึ่งมีอยู่ 4 ห้องย่อย ปรากฏว่า ที่ห้องน้ำห้องที่ 4 ซึ่งอยู่ในสุดของห้อง ปรากฎว่า มีชายวันรุ่น ผิวคล้ำ อายุประมาณ 20 กว่าปี แต่งกายดี แต่ไม่ติดบัตรแสดงตน สวมเสื้อเชิร์ตลายขาว กางเกงสีดำ ได้ปีนชักโครก และชะโงกหน้าข้ามมายังห้องที่ 3 พอดีกับที่ข้าราชการคนที่ทำธุระอยู่ห้องดังกล่าวได้เหลือบไปเห็นพอดี จึงร้องตะโกนโวยวายด้วยความตกใจ พร้อมเปิดประตูออกมาดัก
แนวหน้า – ขณะที่ชายดังกล่าวรีบเปิดประตูออกมาและพยายามจะวิ่งหนี แต่ไม่ทัน ข้าราชการที่พบจึงถามว่า “ทำไมทำแบบนี้” ชายดังกล่าว ซึ่งมีอาการรุกลี้รุกลน อ้างว่า “ไม่รู้ว่าเป็นห้องน้ำหญิง เพราะไม่เคยมาที่นี่” จากนั้น ได้วิ่งหนีออกจากห้องน้ำไปทันที อย่างรวดเร็ว โดยข้าราชการและผู้สื่อข่าวได้วิ่งตามไปแต่ไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตึกบัญชาการให้สกัดจับ แต่ก็ไม่ทันแล้ว จึงขอให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาภาพและเส้นทางวิ่งหนี แต่ปรากฎว่ากล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพชายคนดังกล่าวได้ เนื่องจากบริเวณทางเดินก่อนเลี้ยวเข้าห้องน้ำอยู่นอกเหนือรัศมี โดยกล้องหันไปคนละมุมกับเส้นทางที่คาดว่าชายดังกล่าววิ่งหนีออกไป คือบริเวณประตู 9 ติดกับทางเข้าตลาดคลองผดุงกรุงเกษม
ทั้งนี้ หลังปราฎเป็นข่าวได้ว่าได้สร้างความตื่นตกใจและสร้างความหวาดผวาให้กับผู้สื่อข่าวหญิง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หญิงที่ใช้ห้องน้ำตึกบัญชาการเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบรัฐบาลซึ่งถือเป็นสถานที่สำคัญ เนื่องจากเป็นที่ทำงานของผู้นำรัฐบาล แต่กลับปรากฎว่ามีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ก็เคยมีแท็กซี่ขับเข้ามาจนเลยไปถึงหน้าประตูเข้าตึกไทยคู่ฟ้า จุดเดียวกับที่รถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจอดเพื่อส่งให้นายกฯขึ้นไปยังห้องทำงาน หรือเหตุการณ์ที่มีหญิงเล็ดลอดเข้ามาประชิดตัวนายกฯ ในช่วงก่อนการประชุม และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.60 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุชายบุกประชิดนายกฯเพื่อร้องเรียนปัญหาส่วนตัว ถึงตึกสันติไมตรี หลังออกกำลังกายประจำสัปดาห์เสร็จมาแล้ว ทั้งนี้ ทุกครั้งหลังเกิดเหตุการณ์ก็จะมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอด แต่ยังคงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จนได้
อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยในทำเนียบอาจค่อนข้างลำบาก เนื่องจากปัจจุบันมีการจัดให้มีตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล เพียงแค่มีรั้วกั้น โดยที่พ่อค้า แม่ค้า หรือคนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม สามารถเดินเข้า-ออกประตูทำเนียบเพื่อมาเข้าห้องน้ำที่ตึกบัญชาการ 1 ได้ ไม่มีการสั่งห้ามแต่อย่างใด นอกจากนี้ ปัจจุบันภายในทำเนียบรัฐบาล กำลังมีการปรับปรุงซ่อมแซมตึกบัญชาการ 1 และ 2 จึงมีช่างก่อสร้างเข้ามาทำงานตลอด และใช้ห้องน้ำที่เดียวกัน จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตรวจสอบลำบาก
สำนักข่าววิหคนิวส์